ไม่กระทบ! COCOCO ลุยสร้างโรงงานผลิตกะทิฟิลิปปินส์ตามแผน ยืนยันแผ่นดินไหวไม่สะเทือนธุรกิจ
"COCOCO" ยืนยันโรงงานใหม่ในฟิลิปปินส์ไร้ผลกระทบจากแผ่นดินไหว โครงการก่อสร้างยังคงเดินหน้าตามแผน มั่นใจเสริมกำลังการผลิต ปักหมุดศูนย์กลางอุตสาหกรรมมะพร้าวโลก ดันศักยภาพแข่งขันสู่ตลาดโลก
KEY
POINTS
- "COCOCO" ยืนยันโรงงานใหม่ในฟิลิปปินส์ไร้ผลกระทบจากแผ่นดินไหว โครงการก่อสร้างยังคงเดินหน้าตามแผน
- มั่นใจเสริมกำลังการผลิต ปักหมุดศูนย์กลางอุตสาหกรรมมะพร้าวโลก ดันศักยภาพแข่งขันสู่ตลาดโลก
แรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในฟิลิปปินส์ กลายเป็นประเด็นที่นักลงทุนและผู้ประกอบการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมมะพร้าวรายใหญ่ของโลก และยังเป็นฐานการผลิตใหม่ของหลายบริษัทข้ามชาติ
รวมถึง "บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO" ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าวรายใหญ่ของไทยที่กำลังลงทุนสร้างโรงงานผลิตกะทิแห่งใหม่ใน นิคมอุตสาหกรรม Anflo Industrial Estate (AIE) เมืองปานาโบ จังหวัดดาเวา เดล นอร์เต ประเทศฟิลิปปินส์
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความกังวลต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น COCOCO ออกมายืนยันหนักแน่น ว่าโรงงานใหม่ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากเหตุแผ่นดินไหว
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ COCOCO เผยว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศฟิลิปปินส์ โดยโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตกะทิของบริษัทอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม Anflo Industrial Estate (AIE) ยังคงก่อสร้างตามปกติ
และยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่ตั้งโครงการอยู่คนละฝั่งกับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว
นิคมอุตสาหกรรม Anflo Industrial Estate (AIE) เป็นหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมเอกชนชั้นนำของฟิลิปปินส์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองปานาโบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมมะพร้าวและเกษตรกรรมของประเทศ โดยจุดแข็งด้าน ทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ ตั้งอยู่ใกล้ ท่าเรือ Davao International Container Terminal (DICT) ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ทันสมัยที่สุดของฟิลิปปินส์ ทำให้การขนส่งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และสามารถส่งออกไปยังตลาดหลักได้อย่างรวดเร็ว
รวมถึงมีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร โดย AIE มีระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย ทั้ง ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย และคลังสินค้า พร้อมรองรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ผนวกด้วยความแข็งแกร่งด้านแหล่งวัตถุดิบใกล้โรงงานและพื้นที่โดยรอบ AIE เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวคุณภาพสูง ทำให้สามารถเข้าถึงวัตถุดิบสดใหม่ได้โดยตรง ลดต้นทุนวัตถุดิบ และเพิ่มความมั่นคงของซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ เข้ามาสนับสนุนต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน.


