"ชนินทธ์" รอดศึกถอดถอนกรรมการดุสิตธานี-จับตาปมร้องเรียน ก.ล.ต. รอปะทุ!
แม้เสียงโหวตถอดถอนสูงถึงเกือบ 80% แต่ไม่ถึงเกณฑ์ตัดสิน ทำให้ "ชนินทธ์ โทณวณิก" ยังคงนั่งเก้าอี้กรรมการดุสิตธานีต่อไป ทว่าศึกใหญ่ยังรออยู่เบื้องหน้า เมื่อมีผู้ร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับฯ ปมครอบงำกิจการและอาจผูกขาดตลาด เตรียมปะทุหนักในศึกผู้ถือหุ้น 4 ธ.ค.นี้
KEY
POINTS
- แม้เสียงโหวตถอดถอนสูงถึงเกือบ 80% แต่ไม่ถึงเกณฑ์ตัดสิน ทำให้ "ชนินทธ์ โทณวณิก" ยังคงนั่งเก้าอี้กรรมการดุสิตธานีต่อไป
- ทว่าศึกใหญ่ยังรออยู่เบื้องหน้า เมื่อมีผู้ร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับฯ ปมครอบงำกิจการและอาจผูกขาดตลาด
- เตรียมปะทุหนักในศึกผู้ถือหุ้น 4 ธ.ค.นี้
เป็นอีกวันที่ต้องจดบันทึก! ในวันที่ 26 กันยายน 2568 การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) ของผู้ถือหุ้น "ดุสิตธานี" แม้ไม่เผชิญหน้าแต่กลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันและความตึงเคลียดโหมซัด
แน่นอนว่า ทุกสายตาถูกตรึงอยู่ที่เก้าอี้ของชายที่ชื่อ "ชนินทธ์ โทณวณิก" เมื่อการลงคะแนนวาระการถอดถอน "ชนินทธ์" ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทเริ่มต้นขึ้น ตัวเลขบนกระดานขยับไปเรื่อยๆ เสียง "เห็นด้วย" กับการถอดถอนพุ่งสูงกว่า 425 ล้านเสียง คิดเป็น 79.61% จนหลายคนแทบแน่ใจแล้วว่าเก้าอี้ตัวนี้กำลังจะว่างลง
แต่เสียงอีกด้านกลับหนักแน่นไม่แพ้กัน กว่า 107 ล้านเสียง หรือ 20.20% "ไม่เห็นด้วย"
ผลลัพธ์สุดท้ายทำเอาห้องประชุมแทบหยุดหายใจ เมื่อคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ 3 ใน 4 "ชนินทธ์" ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เดิม ก้าวข้ามแรงกดดันไปได้อย่างเฉียดฉิว
แต่เรื่องราวยังไม่จบ…
เมื่อถึงวาระที่ 4 เสียงประธานในที่ประชุมสั่นสะเทือนอารมณ์ผู้ถือหุ้นทั้งห้อง เขาเพิ่งได้รับหนังสือร้องเรียน มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งส่งเรื่องไปยัง ก.ล.ต. และ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวหาว่าเบื้องหลังมีการ "จับมือครอบงำกิจการ" โดยไม่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ อาจเข้าข่ายผูกขาดตลาด และต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
เวลาเหมือนหยุดเดินไปชั่วขณะ!
ที่ปรึกษากฎหมายเสนอความเห็นชัดเจน.. วาระนี้ไม่อาจดำเนินต่อได้ เพราะมันเกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาที่ต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับโดยตรง ประธานจึงตัดสินใจ เลื่อนการพิจารณาวาระ 4 และ 5 ออกไป พร้อมนัดหมายใหม่ใน วันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ผ่าน E-Meeting เท่านั้น
อนึ่ง หลังจากเริ่มประชุมเมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีผู้ถือหุ้นมาลงทะเบียนเพิ่มเติมเพื่อเข้าประชุม โดยมีผู้ถือหุ้นมาประชุมด้วยตนเองและโดยการมอบฉันทะรวมท้ังสิ้น 483 ราย นับจำนวนหุ้นได้รวมท้ังสิ้น 534,298,568 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 62.8587 ของจำนวน 850,000,000 หุุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัท
การประชุมสิ้นสุดลง แต่กลิ่นอายแห่งดราม่ายังคงอบอวล เหมือนละครที่ตัดจบกลางฉากสำคัญ ทิ้งคำถามใหญ่ให้ลอยค้างอยู่ในอากาศ..อนาคตของดุสิตธานี กำลังจะพลิกไปทางไหนกันแน่?


