“SKIN” หุ้น IPO ตัวที่ 7 ปี 68 เปิดเทรดวันแรก 3.10 บาท เหนือจอง 158.33%
หุ้น IPO ตัวที่ 7 ของปี 68 “SKIN” เปิดเทรด mai วันแรก 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 158.33% จากราคาไอพีโอ 1.20 บาท พบ “แพรธิดา จีระพรประภา” กลุ่มหมอวิน และ “โสภิศ แก้วสว่าง” ภรรยาเสี่ยป๋อง-วัรชะ แก้วสว่าง โผล่ถือหุ้น
KEY
POINTS
- หุ้น IPO ตัวที่ 7 ของปี 68 “SKIN” เปิดเทรด mai วันแรก 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 158.33% จากราคาไอพีโอ 1.20 บาท
- พบ “แพรธิดา จีระพรประภา” กลุ่มหมอวิน ถือหุ้นอันดับ 4 สัดส่วน 3.19% และ “โสภิศ แก้วสว่าง” ภรรยาเสี่ยป๋อง-วัรชะ แก้วสว่าง ถือหุ้นอันดับ 13 สัดส่วน 0.69%
- ย้อนผลตอบแทน IPO 6 ตัวแรก สอบผ่าน 2 ตัว สอบตก 4 ตัว
- ภาพรวมตลาดหุ้นไทย YTD ร่วง 127.01 จุด หรือลดลง 9.07% มาร์เก็ตแคปวูบ 1.38 ล้านล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (24 ก.ย.2568) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยเปิดที่ราคา 3.10 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 158.33% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 1.20 บาท
ล่าสุด เวลา 10.38 น. ปรับเพิ่มขึ้น 2.26 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 188.33% มาอยู่ที่ 3.46 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 308.74 ล้านบาท
ทั้งนี้ SKIN ประกอบธุรกิจคิดค้น พัฒนา จ้างผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัท คือ SKINSISTA และ Dermie
SKIN เสนอราคาขาย IPO ที่ 1.20 บาท/หุ้น จำนวนไม่เกิน 44,000,000 หุ้น คิดเป็น 30.55% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังจากหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในปี 2568-2570 แบ่งเป็น
1.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม และ/หรือการคิดค้น วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องสำอางหรือเวชสำอางบำรุงผิวหน้าหรือผิวพรรณ หรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจและความเหมาะสมในการลงทุนในอนาคต
2.ใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาดและการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทั้งแบรนด์หลักปัจจุบัน คือ Skinsista และแบรนด์ที่จะมุ่งเน้นทำการตลาดเพิ่มเติม คือ Dermie
3.ใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาดและการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ต่างๆของบริษัท ผ่านการลงทุนให้ครอบคลุมช่องทางการจำหน่ายหลัก (Market Landscape)
4.ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เช่น การขยายช่องทางการจำหน่ายและฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทางด้านผลการดำเนินงานในปี 2565-2567 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 282.70 ล้านบาท 272.80 ล้านบาท และ 230.53 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 10.78 ล้านบาท 16.79 ล้านบาท และ 10.67 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 95.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 7.63 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้น พบว่า นางแพรธิดา จีระพรประภา (กลุ่มหมอวิน-นพ.รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา นักลงทุนเซียนเทคนิค) ถือหุ้นอันดับ 4 จำนวน 4,600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.19% และนางโสภิศ แก้วสว่าง ภรรยา นายวัชระ แก้งสว่าง (เสี่ยป๋อง) ถือหุ้นอันดับ 13 จำนวน 1,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.69%
ย้อนกลับไปนับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน (Year to Date : YTD) มีหุ้น IPO เข้าใหม่ จำนวน 7 บริษัท เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนใน mai ทั้งหมด โดย SKIN ถือเป็นหุ้น IPO ตัวที่ 7 ของปี 2568
ส่วนหุ้น IPO อีก 6 ตัว ประกอบด้วย
บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS
- ราคา IPO 3.00 บาท
- เปิดการซื้อขายวันแรก (20 ม.ค.2568) 3.90 บาท เพิ่มขึ้น 30.00% จากราคา IPO
- ปิดการซื้อขายวันแรก 3.60 บาท เพิ่มขึ้น 20.00% จากราคา IPO
- ปิดวันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 3.78 บาท เพิ่มขึ้น 26.00% จากราคา IPO
บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER
- ราคา IPO 1.40 บาท
- เปิดการซื้อขายวันแรก (11 ก.พ.2568) 2.16 บาท เพิ่มขึ้น 54.26% จากราคา IPO
- ปิดการซื้อขายวันแรก 1.61 บาท เพิ่มขึ้น 15.00% จากราคา IPO
- ปิดวันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 1.26 บาท ลดลง 10.00% จากราคา IPO
บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH
- ราคา IPO 5.00 บาท
- เปิดการซื้อขายวัน (2 เม.ย.2568) 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 5.00% จากราคา IPO
- ปิดการซื้อขายวันแรก 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 1.00% จากราคา IPO
- ปิดวันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 4.80 บาท ลดลง 4.00% จากราคา IPO
บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA
- ราคา IPO 1.80 บาท
- เปิดการซื้อขายวันแรก (22 เม.ย.2568) 2.40 บาท เพิ่มขึ้น 33.33% จากราคา IPO
- ปิดการซื้อขายวันแรก 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 36.67% จากราคา IPO
- ปิดวันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 1.34 บาท ลดลง 25.56% จากราคา IPO
บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT
- ราคา IPO 6.80 บาท
- เปิดการซื้อขายวันแรก (11 มิ.ย.2568) 6.20 บาท ลดลง 8.82% จากราคา IPO
- ปิดการซื้อขายวันแรก 5.20 บาท ลดลง 23.53% จากราคา IPO
- ปิดวันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 5.20 บาท ลดลง 23.53% จากราคา IPO
บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN
- ราคา IPO 0.70 บาท
- เปิดการซื้อขายวันแรก (14 ส.ค.2568) 0.90 บาท เพิ่มขึ้น 28.57% จากราคา IPO
- ปิดการซื้อขายวันแรก 2.12 บาท เพิ่มขึ้น 202.86% จากราคา IPO
- ปิดวันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 1.39 บาท เพิ่มขึ้น 98.57% จากราคา IPO
ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย นับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน (YTD) ปรับตัวลดลง 127.01 จุด หรือลดลง 9.07% จากสิ้นปี 2567 ปิดที่ 1,400.21 จุด มาปิดที่ 1,273.20 จุด เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา
ทางด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ณ วันที่ 23 ก.ย.2568 อยู่ที่ 16,049,394.70 ล้านบาท หรือลดลง 1,384,358.75 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ระดับ 17,433,753.45 ล้านบาท


