posttoday

SET แกว่งไซด์เวย์ กรอบ 1,255-1,290 จุด รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่

11 กันยายน 2568

SET แกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ในกรอบ 1,255-1,290 จุด รอความคืบหน้าในการจัดตั้ง ครม. และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ PRM และ BCPG

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ยังติดตามความคืบหน้าในการจัดตั้ง ครม. และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพิ่มเติมจากโครงการคนละครึ่งเป็นความหวังของตลาด ส่วนปัจจัย ภายนอก ตัวเลข PPI สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดมาก หนุนเฟดลดดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้นในการประชุมสัปดาห์หน้า ตลาดติดตาม CPI คืนนี้ต่อ ทางเทคนิคหากยังไม่หลุด 1265/1255 ยังไม่เสียแนวโน้มการแกว่งขึ้น แนวต้านประเมินที่ 1285/1290

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1280/1300

ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญติดตาม ได้แก่ CPI ส.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.7%YoY ใน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ย. นี้ ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 2 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดครึ่งหลังปี 2568 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดี ทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรครึ่งแรกปี 2568 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB HMPRO (XD 10 ก.ย.) และ KKP (XD 10 ก.ย.)

3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ (1) หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568 F < -1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A- AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA 

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITS (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) 

3) หุ้นที่ได้อานิสงส์การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PRM มีปัจจัยกระตุ้นจากกำไรที่แข็งแกร่งในครึ่งหลังปี 2568 จากรับรู้รายได้เรือลำใหม่เต็มไตรมาสและมีอัตราใช้เรือที่เพิ่มขึ้น หนุนให้ปี 2568 คาดกำไรพลิกโต 5%YoY และโดต่อ 9%YoY ในปี 2569 อีกทั้ง Valuation ไม่แพง เทรด PER 2568F 6.8 เท่า ต่ำกว่ากลุ่ม ที่ 8.9 เท่า และคาดให้ Div. yield สูงปีละ 7.6% ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 6.85 บาท

BCPG ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากข่าว EIA ประเมินความต้องการใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ จะทำสถิติสูงสุดใหม่ เมื่อบวกกับ จะรับรู้ค่า Capacity Payment ที่เพิ่มขึ้นมากในสหรัฐฯ เต็มไตรมาสและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่หลายโครงการ คาดจะหนุนกำไรครึ่งหลังปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 8.70 บาท

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด ตะกร้อทีมชุดชาย ไทย พบ มาเลเซีย วันนี้ 14 ธ.ค.68