SET แกว่งไซด์เวย์ กรอบ 1,250-1,285 จุด หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุน
SET แกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ในกรอบ 1,250-1,285 จุด หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุน กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ BCH และ HTC
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น รัฐบาลใหม่มีโอกาสทยอยออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง 4 เดือนข้างหน้า เป็นความหวังหนุนตลาด ส่วนปัจจัยภายนอก การลดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ช่วง เม.ย. 2567 ถึง มี.ค. 2568 ลงเกือบล้านตำแหน่งยิ่งหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยและบางส่วนมองลดถึง 50bps ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าวานนี้ยังหนุนเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยไม่มาก เทคนิคหากยังไม่หลุด 1260/1250 ยังไม่เสียแนวโน้มการแกว่งขึ้น แนวต้านประเมินที่ 1280/1285
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1280/1300
ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญติดตาม ได้แก่ CPI ส.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.7%YoY ใน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ย. นี้ ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม
ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 2 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดครึ่งหลังปี 2568 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดี ทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรครึ่งแรกปี 2568 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB HMPRO (XD 10 ก.ย.) และ KKP (XD 10 ก.ย.)
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ (1) หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568 F < -1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A- AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITS (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF)
3) หุ้นที่ได้อานิสงส์การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BCH ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มผลประกอบการที่จะดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มบริการใหม่ๆ มีสัญญาณบวกจากผู้ป่วยชาวคูเวต หลังจากที่ลดลงมาตั้งแต่กลางไตรมาส 1/2567 ปัจจุบันหุ้น BCH ซื้อขายที่ PE ปี 2569 ระดับ 19 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD valuation อยู่ในระดับต่ำ ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 14 บาท
HTC ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นสั้นจากราคาหุ้น laggard หุ้นเครื่องดื่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งมาก บริษัทใช้กลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ และกระจายสินค้าทั้งในส่วนของ Cooler และ HORECA เพิ่ม รวมถึงการขยายกำลังการผลิตของขวดแก้วใน หนุนการประหยัดต้นทุนในระยะยาว ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 15.40 บาท


