posttoday

WASH จ่อขายไอพีโอ 105.88 ล้านหุ้น เข้า mai หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง

08 กันยายน 2568

“ลอนดรี้ ยู” หรือ WASH เตรียมเสนอขายไอพีโอ 105.88 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้า mai หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง ชูโมเดลธุรกิจลงทุน-ขยาย-บริหารเอง สร้างรายได้ประจำ ปักธงขยายสาขาทั่วประเทศ

นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของบริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้น IPO และการนำ “WASH” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอไอ (mai) ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) แล้ว สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 105,882,352 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ 

โดย WASH มีแผนจะนำเงินไปใช้ในการลงทุนเพื่อเพิ่มจำนวนสาขาร้านสะดวกซัก WashXpress รองรับการขยายธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายในการเปิดร้านสะดวกซัก WashXpress ที่บริษัทเป็นเจ้าของไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 2569 -2570, ลงทุนปรับปรุงและยกระดับ (Upgrade) ร้านสะดวกซัก WashXpress ของสาขาที่มีอยู่เดิม รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน 

นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH กล่าวว่า “WashXpress” ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จากการส่งมอบประสบการณ์การซักผ้าที่ดี ด้วยแนวคิด “สะอาด สะดวก สบาย” และสร้างสรรค์บริการที่หลากหลายให้ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างความสะดวกแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับชุมชน พร้อมเดินหน้าขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้

ปัจจัยหลักที่ผลักดันบริษัทก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมร้านสะดวกซักในประเทศไทย และสร้างความพร้อมในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต มาจากจุดแข็งและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ได้แก่ 

(1) โมเดลธุรกิจที่เน้นสาขาของบริษัทเอง ทำให้จัดการมาตรฐานง่ายและมีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีจำนวนถึง 469 สาขา (สาขาของบริษัท) คิดเป็น 85.58% ของสาขาทั้งหมด 

โมเดลธุรกิจดังกล่าวช่วยให้บริษัทควบคุมคุณภาพการบริการได้อย่างเต็มที่ ขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือการสร้างรายได้จากการให้บริการอย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) จากการให้บริการเครื่องซักผ้าและอบผ้า และบริการครบวงจรอื่นๆ ซึ่งการสร้างรายได้ต่อเนื่องถือเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ได้เพิ่มบริการใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค เช่น รับรีด เพื่ออำนวยความสะดวก 

(2) แบรนด์ “WashXpress” ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือการใช้เครื่องซักผ้าคุณภาพสูง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการบริการที่ครอบคลุม ผลสำรวจจาก Vitamins Consulting & Research พบว่า ลูกค้าเลือกใช้บริการเพราะความสะอาด ความสะดวกของสาขา และความสบายของสถานที่ สะท้อนจากจำนวนบัญชีผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 1,572,296 บัญชี ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 

(3) ขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในทำเลที่ตั้งสำคัญ (Strategic Location) บริษัทเพิ่มจำนวนสาขาอย่างรวดเร็วตลอด 7 ปี จนมี 548 สาขา ใน 21 จังหวัด โดยเลือกทำเลในจุดยุทธศาสตร์ เช่น แหล่งชุมชน, คอมมูนิตี้มอลล์ และสถานีบริการน้ำมัน และใช้กลยุทธ์ขยายสาขาแบบกลุ่ม (Cluster expansion) เพื่อสร้างการรับรู้และบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าเปิดอีก 80 สาขา ในปี 2568 และจะขยายไปยังภาคเหนือและภาคใต้ 

(4) รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง พร้อมการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2565-2567 ของรายได้รวม (CAGR) ประมาณ 33.16% และกำไรสุทธิ (CAGR) ประมาณ 18.63% นอกจากนี้ ยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิได้ดี จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เช่น จัดตั้งหน่วยงานส่วนกลางเพื่อสนับสนุนการจัดการร้าน, ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องซักอบผ้าราคาพิเศษ

(5) ธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมร้านสะดวกซักที่เติบโตสูงและมีความพร้อมขยายธุรกิจ อุตสาหกรรมร้านสะดวกซักของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมูลค่าตลาดคาดว่าจะสูงถึง 13,500 ล้านบาท ในปี 2567 ปัจจัยหนุนมาจากการขยายตัวของสังคมเมือง, การเติบโตของภาคการท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยบริษัทมีศักยภาพขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จาก ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีสาขาทั้งหมด 548 สาขา ครอบคลุม 21 จังหวัด 

(6) การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อสนับสนุนธุรกิจ บริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “WashXpress” โดยมีฟังก์ชันค้นหาสาขา, ตรวจสอบสถานะเครื่อง, ชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless payment) และติดตามสถานะการซักผ้าได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงมีระบบสมาชิกหลายระดับเพื่อสร้าง Brand Loyalty ผ่านการสะสมคะแนนและแลกรับสิทธิประโยชน์พิเศษ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้จากแอปพลิเคชันยังถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น 

(7) กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งและทีมผู้บริหารของบริษัทมีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านสะดวกซักมากกว่า 7 ปี ผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68