โหวตนายกฯ-ตั้งรัฐบาลใหม่ ป่วน SET แกว่ง 1,200–1,250 จุด ย่อสะสม BCPG เด่นสุด
จับตาโหวตนายกฯ-ฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ บล.ลิเบอเรเตอร์มองหุ้นไทยวันนี้ผันผวน 1,200–1,250 จุด กลยุทธ์ย่อตั้งรับหุ้นปลอดภัยกำไรดี เชียร์ BCPG เคาะเป้า 10 บาทรับแรงหนุน COD โครงการใหม่ รายได้ขายไฟสหรัฐฯพุ่งไตรมาส 3/68
KEY
POINTS
- จับตาโหวตนายกฯ-ฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่
- บล.ลิเบอเรเตอร์มองหุ้นไทยวันนี้ผันผวน 1,200–1,250 จุด กลยุทธ์ย่อตั้งรับหุ้นปลอดภัยกำไรดี
- เชียร์ BCPG เคาะเป้า 10 บาทรับแรงหนุน COD โครงการใหม่ รายได้ขายไฟสหรัฐฯพุ่งไตรมาส 3/68
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเดือนสิงหาคมผันผวนโดยบวกในช่วงแรกจากภาษีทรัมป์เก็บไทยที่ 19% ต่ำคาด ผสานรายงานงบบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด หนุน SET สูงสุดของเดือนที่ 1,283 จุด
อย่างไรก็ดี ช่วงครึ่งหลัง ไทยเผชิญกับเงินทุนไหลออกทั้งปรับพอร์ท MSCI และการเมืองที่ร้อนแรงขึ้น ส่งผลให้ SET ปิดลดลง -0.5% m-m ขณะที่หุ้น Monthly Portfolio ของ LIB เพิ่มขึ้น +3.3% m-m ยังคงชนะตลาดเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน)
ส่วนภาพ SET ในเดือนกันยายนนี้ คาดแกว่งในกรอบ 1,200-1,280 จุด โดยมี 2 ประเด็นหลัก คือ การเมืองในประเทศ และแนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลก โดยสำหรับการเมืองไทยจะเข้มข้นมากในช่วงต้นเดือน
หลังศาลฯตัดสิน คุณแพรทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกฯในสัปดาห์ก่อนแล้ว ทำให้ต้องรีบโหวตนายกใหม่ในช่วงต้นเดือน โดยต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ สส.ปัจจุบันที่ 492 เสียง คือ 247 เสียง ดังนั้นตัวแปรสำคัญจะอยู่ที่พรรคประชาชนซึ่งมี 143 เสียง ว่าจะโหวตให้ขั้วไหนระหว่าง เพื่อไทย VS ภูมิใจไทย
นอกจากนี้ยังต้องเกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงาน และเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นจุด FED ใช้ในการตัดสินใจ โดยเรายังคาดหวังการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯในเดือนนี้ อาจเป็นปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยพยุงตลาดเพิ่มเติม
ด้านกลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยรอจังหวะย่อค่อยสะสม เน้นกลุ่ม Defensive โดยหุ้นเด่นสำหรับเดือน ก.ย. แนะนำ BCPG, BH, ICHI, TIDLOR
คาด SET วันนี้ “ผันผวน” ในกรอบ 1,220 - 1,250 จุด คาดตลาดรอดูการโหวตนายกฯใหม่ และการฟอร์มทีมรัฐบาลในสัปดาห์นี้ ดังนั้นอาจกดดันจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น โดยแนะกลยุทธ์ย่อตั้งรับ เน้นกลุ่มปลอดภัย ที่แนวโน้มกำไรยังขยายตัวดี
สำหรับวันนี้แนะนำ “BCPG” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงถัดไป มีทิศทางที่ดีขึ้นมาก จากการทยอยเริ่ม COD โครงการต่างๆ และคาดจะไม่มีการตั้งด้อยค่าในจำนวนมากอย่างช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
ผสานรายได้จากการขายไฟในอเมริกาจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป จากการปรับค่าความพร้อมจ่ายที่เร่งขึ้นแบบก้าวกระโดดตามความต้องการไฟฟ้าที่รองรับ datacenter ที่เพิ่มขึ้น.


