หุ้นไทยยังมีหวัง! "พิชัย"เร่งอุดจุดอ่อนโครงสร้างดึงเชื่อมั่น
ตลาดหุ้นไทยร่วงต่ำ "พิชัย ชุณหวชิร" ชี้รัฐเร่งแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน-กฎหมายตลาดทุนเสริมศรัทธาการลงทุนระยะยาว เชื่อโอกาสฟื้นหากนักลงทุนมองไกลกว่าเดิม
KEY
POINTS
- ตลาดหุ้นไทยร่วงต่ำ "พิชัย ชุณหวชิร" ชี้รัฐเร่งแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน-กฎหมายตลาดทุนเสริมศรัทธาการลงทุนระยะยาว
- เชื่อโอกาสฟื้นหากนักลงทุนมองไกลกว่าเดิม
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงในตอนนี้ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าตลาดทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันเป็นทางเลือกหนึ่งของนักลงทุน
ในวันนี้ดัชนีถือว่าปรับตัวลดลงถึงจุดที่ค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับตลาดอื่น เนื่องด้วยผลประกอบการอาจจะลงตามเศรษฐกิจโลกไม่ดี แต่แน่นอนว่าหากเข้าใจบริบทการบริหารแผนของบริษัทที่สามารถวางแผนได้ดีในระยะปานกลางถึงระยะยาวสามารถที่จะอยู่ได้ ฟื้นตัวได้ดี
ผมว่านักลงทุนอาจจะคิดใหม่ โดยไม่ได้ซื้อเช้าขายบ่ายแต่อาจจะต้องซื้อเก็บถ้ามีความมั่นใจ
ถามว่า..คลังจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเรียกความเชื่อมั่นตลาดทุนหรือไม่ ?
ความเชื่อมั่นมีหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องกฎเกณฑ์ตลาดหุ้น ซึ่งที่ผ่านมามีการออกมาตรการค่อนข้างมากเพื่อปิดช่องว่างระหว่างบริษัท นักลงทุนขนาดใหญ่และขนาดเล็ก หรือนักลงทุนต่างประเทศกับนักลงทุนไทยในแง่ของการเปิดเผยข้อมูลการขายหุ้น เช่น Naked short, การซื้อขายหุ้นรวดเร็ว การลงโทษและเอาผิด เป็นต้น
กฎหมายต่างๆในวันนี้ค่อนข้างชัดเจนและเตรียมไว้ทั้งหมด ผมคิดว่าภายในเวลาอันสั้นน่าจะสามารถผ่านกฎหมายได้
ส่วนแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจุบันไม่ได้กระตุ้นการบริโภคโดยตรง เน้นกระตุ้นในส่วนของการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง นักลงทุนที่มาลงทุนประเทศไทยมีปัญหาเรื่องนี้เกือบ 10 เรื่อง หลักๆคือเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ น้ำ, ถนนหนทาง เพียงพอหรือไม่ รวมถึงราคาพลังงาน, กฎเกณฑ์ที่ดิน การถือครอง ฯลฯ
นี่คือสิ่งที่นักลงทุนต้องการและรัฐหยิบประเด็นต่างๆมาพิจารณาทั้งหมดเพราะนำมาซึ่งความมั่นใจในการลงทุน
ถามว่า..เสถียรภาพการเมือง หรือการเปลี่ยนรัฐบาลจะมีผลต่อการเจรจาการค้าหรือไม่ ?
ตนไม่ทราบเรื่องเปลี่ยนรัฐบาลหรือไม่ แต่เรื่องการเจรจาการค้า เท่าที่ทราบคือหลายประเทศที่เจรจาไม่ได้จบง่าย
ส่วนจะขยายระยะเวลาการเจรจาการค้าจาก 8 ก.ค.นี้ออกไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับฝั่งสหรัฐฯพิจารณา


