ย้อนไทม์ไลน์ “สารัชถ์” ซื้อขายหุ้น GULF ล่าสุด เก็บเพิ่ม 2 ล้านหุ้น
ย้อนรอย “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ซื้อขายหุ้น GULF ล่าสุด เก็บเพิ่ม 2 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 43.50 บาท รวมเป็นเงิน 87 ล้านบาท
สำนักงาน ก.ล.ต. รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) พบว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2568 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มีการซื้อหุ้น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF จำนวนทั้งสิ้น 2,000,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 43.50 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 87,000,000 บาท
ดังนั้น ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ที่ถือหลังวันที่ทำรายการดังกล่าวอยู่ที่ 4,356,087,578 หุ้น จากโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 17 เม.ย.2568 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้น GULF จำนวน 4,360,559,178 หุ้น คิดเป็น 29.19%
ทั้งนี้ จากข้อมูลรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ย้อนกลับไปนับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน (YTD : Year to Date) พบว่า นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มีการซื้อและขายหุ้น GULF อีก จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2568 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มีการซื้อหุ้น GULF จำนวนทั้งสิ้น 510,700 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 48.75 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 24,896,625 บาท ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ที่ถือหลังวันที่ทำรายการดังกล่าวอยู่ที่ 4,327,659,178 หุ้น
เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2568 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มีการซื้อหุ้น GULF จำนวนทั้งสิ้น 35,000,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 46.49 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 1,627,150,000 บาท ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ที่ถือหลังวันที่ทำรายการดังกล่าวอยู่ที่ 4,362,659,178 หุ้น
ขณะที่เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2568 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มีการขายหุ้น GULF จำนวนทั้งสิ้น 2,100,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 46.00 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 96,600,000 บาท ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ที่ถือหลังวันที่ทำรายการดังกล่าวอยู่ที่ 4,360,559,178 หุ้น
เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2568 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มีการขายหุ้น GULF จำนวนทั้งสิ้น 6,471,600 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 46.94 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 303,776,904 บาท ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ที่ถือหลังวันที่ทำรายการดังกล่าวอยู่ที่ 4,354,087,578 หุ้น
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แม้ SET INDEX จะย่อตัวลงมากว่า 90 จุด ในช่วงเกือบ 1 เดือน และสัปดาห์นี้มูลค่าซื้อขายเบาบาง เหลือเพียง 2 หมื่นกว่าล้านบาทต่อวัน เพราะนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องประเด็นการเมือง
แต่ในทางกลับกันช่วง SET ลงมา 90 จุด ในช่วงเกือบ 1 เดือน กลับเห็นการทยอยซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียนหนาแน่นขึ้นเฉลี่ย 352 ล้านบาทต่อวัน (มีสัดส่วนขยับขึ้นมาเกิน 1% ของมูลค่าซื้อขาย มากกว่าระดับปกติเฉลี่ย 0.5% ของมูลค่าซื้อขาย) อีกทั้งยังมีการซื้อหุ้นจากผู้บริหารเฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อวัน
กลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน ที่บริษัททยอยซื้อคืนในช่วง 1 เดือนที่ SET ย่อตัวลงมากว่า 90 จุด อย่าง CPALL, TU, PTT, SPALI, SJWD, STECON และหุ้นที่ผู้บริหารทยอยซื้อสะสมเช่นกัน อย่าง KCE, GULF, SPALI, BDMS, CRC, SAWAD, PLANB, BH


