ระวัง! SET ผันผวนตามเจรจาการค้า ไซด์เวย์ 1,160-1,180 จุด
ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทยแกว่ง 1,160 - 1,180 จุด แม้ทรัมป์เลื่อนเส้นตายขึ้นภาษี 50% ติดตามเจรจาภาษีทั่วโลก เชียร์ GULF ธุรกิจแกร่ง คาดกำไรปีนี้โต 15%
KEY
POINTS
- ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทยแกว่งกรอบ 1,160 - 1,180 จุด แม้ทรัมป์เลื่อนเส้นตายขึ้นภาษี 50% ยุโรปเป็น 9 ก.ค. ติดตามเจรจาภาษีทั่วโลก
- เชียร์ GULF ธุรกิจพลังงาน-โครงสร้างพื้นฐาน-ดิจิตอลแกร่ง คาดกำไรปีนี้โต 15%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ประเด็นสงครามการค้ายังคงวนเวียนกดดันการลงทุน โดยช่วงสุดสัปดาห์ โดนัล ทรัมป์ ขู่จะเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับ ไอโฟนที่จำหน่ายในสหรัฐฯ แต่ผลิตในต่างประเทศ ถือเป็นการกดดันให้ Apple ย้ายฐานการผลิตกลับสู่สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปในอัตราที่สูงถึง 50% เนื่องจากยังไม่พอใจกับข้อเสนอทางการค้าของสหภาพยุโรป (EU) โดยมองว่า "ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอ”
แต่อย่างไรก็ดีเช้านี้ทรัมป์มีการขยายเส้นตายสำหรับภาษี 50% ของยุโรปจาก 1 มิ.ย. ออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. หลังจากได้คุยกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งอาจช่วยผ่อนคลายได้เล็กน้อย
คาดตลาดหุ้นระยะสั้นยังค่อนข้างผันผวน และกลับมาเกาะติดการเจรจาการค้ามากยิ่งขึ้น ขณะที่ไทยยังไม่เห็นความคืบหน้าการเจรจาอย่างชัดเจน ดังนั้นคงเป็นประเด็นที่ยังกดดัน ผสานกับสัญญาณทางเทคนิค SET หลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,180 จุด ดังนั้นยังคงแนะเพิ่มความระมัดระวังต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่น่าติดตามในวันนี้ ได้แก่ ยอดการส่งออกของไทย เดือนเมษายน โดยตลาดคาดมูลค่าส่งออก 2.61 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น +12.2% จากปีก่อน (y-y) ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยคาดได้แรงหนุนจากการเร่งส่งออกก่อนที่จะมีบทสรุปที่ชัดเจนของมาตรการการค้าของทรัมป์
คาด SET วันนี้ “Sideway” ในกรอบ 1,160 - 1,180 จุด แม้ทรัมป์เลื่อนเส้นตายขึ้นภาษี 50% ของยุโรปออกไปเป็น 9 ก.ค. แต่คงต้องติดตามการเจรจาภาษีทั่วโลกอย่างใกล้ชิด ส่วนในประเทศวันนี้จับตาตัวเลขส่งออกไทย เดือน เม.ย. คาดเพิ่มขึ้น 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กลยุทธ์ยังแนะเพิ่มความระมัดระวังในจังหวะที่ SET ยังต่ำกว่า 1,180 จุด
โดยวันนี้แนะ “GULF” ให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60 บาท แนวโน้มธุรกิจแข็งแกร่ง โดยเป็น Holding ที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิตอล (Data center, Cloud, AI) โดยคาดกำไรปีนี้จะเติบโตราว +15%
ฐานะการเงินแข็งแกร่งหลังจากควบรวมกับ INTUCH ส่งผลให้ D/E ratio ลดลงสู่ ระดับ 0.8 เท่า จากเดิมที่ 1.8 เท่า ผสานศักยภาพการเติบโตในอนาคตยังมีต่อเนื่อง


