ผู้ถือหุ้น IFEC ร้องผู้ว่าฯเชียงใหม่ สอบ ‘ดาราเทวี’ ฝ่าฝืนกฎหมาย

วันนี้ (23 พ.ค.68) เวลา 09.00 น. นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ และ นางจินตพร ภู่ไพจิตร์กุล ผู้ถือหุ้น บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีส เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC พร้อมทนายความ นายประสิทธิ์ วงศาสวัสดิ์ ยื่นหนังสือต่อนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ 

โดยร้องขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งบูรณาการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เทศบาลตำบลท่าศาลา นายอำเภอเชียงใหม่ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ให้ดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย กรณี โรงแรมดาราเทวี ที่มีการดำเนินการเรื่องระบบสาธารณูปโภคที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของอาคารขนาดใหญ่ เปิดร้านอาหารโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ รวมถึงการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารที่รุกล้ำลำเหมืองสาธารณะ โดยไม่ผ่านกระบวนการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

ทางผู้ถือหุ้นเห็นว่าเมื่อเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ยิ่งควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม เพราะหากเป็นประชาชนทั่วไปไม่มีใบอนุญาตก็คงถูกสั่งปิดไปแล้ว แต่กรณีนี้กลับไม่ได้มีการดำเนินการที่ชัดเจน

ทำไมต้องมายื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด?

เพราะผู้ว่าฯคือผู้มีอำนาจในการบูรณาการสั่งการไปยังหน่วยงานในพื้นที่ และเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการรักษากฎหมาย เราเชื่อว่าหากท่านผู้ว่าฯ เห็นความไม่ชอบมาพากล ก็ควรมีบทบาทในการเร่งรัดให้เกิดการตรวจสอบและดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับสังคม

เรื่องนี้กระทบกับผู้ถือหุ้นอย่างไร ?

นอกจากปัญหาเรื่องการดำเนินกิจการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังเคยเกิดเหตุการณ์ ไฟไหม้อาคารภายในโรงแรมดาราเทวี เนื่องจากไม่มีระบบสาธารณูปโภคที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและดับเพลิง ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลเสียหายโดยตรงต่อทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งผู้ถือหุ้นได้ลงทุนไปนั้น ส่งผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินของผู้ถือหุ้น เป็นอย่างมาก

นี่คือเหตุผลที่เราต้องการให้ภาครัฐเข้ามากำกับดูแลอย่างจริงจัง เพราะถ้าปล่อยให้มีการใช้อาคารหรือเปิดกิจการโดยไม่มีความพร้อมตามกฎหมาย ความเสียหายจะไม่ใช่แค่ด้านกฎหมายเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดความเสียหายด้านทรัพย์สินและความปลอดภัยต่อชีวิตผู้คนด้วย

ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท เราเห็นว่าการที่อาคารหรือธุรกิจดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จะกระทบต่อความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์ ทั้งในแง่ของความเสี่ยงทางกฎหมาย และความรับผิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรื่องของจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นที่สุจริตไม่ควรถูกนำไปผูกพันกับการดำเนินการที่ไม่โปร่งใสหรือขัดต่อกฎหมาย การเรียกร้องครั้งนี้จึงเป็นการปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นและผลประโยชน์ของสาธารณะไปพร้อมกัน

การที่ บริษัท สยามเอสเตทดาราเทวี จำกัด ทำการเปิดร้านอาหาร โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการพาณิชย์ที่จำเป็น เช่น ใบอนุญาตสถานที่จำหน่ายอาหาร หรือใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหาร อีกทั้ง หากอาคารมีการก่อสร้างหรือปรับปรุงโดยไม่ได้ขออนุญาต ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ถือเป็นการละเมิดกฎหมายเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์ หรือบุคคลใดก็ตาม การเปิดบริการเชิงพาณิชย์โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถือว่าผิดกฎหมาย และรัฐก็มีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาค

หน่วยงานรัฐควรดำเนินการเหมือนกับกรณีที่ประชาชนทั่วไปฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ควรมีสองมาตรฐาน

ผู้ถือหุ้นเห็นว่ารัฐควรดำเนินการอย่างไร ?

หน่วยงานของรัฐควรดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายโดยเสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือธุรกิจขนาดใหญ่ และหากพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ควรดำเนินการตามขั้นตอน เช่น สั่งปิดกิจการ หรือ นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้อง

การปล่อยปละละเลย หรือมีมาตรฐานสองมาตรฐานจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของรัฐ และสร้างความไม่เป็นธรรมต่อประชาชน

รัฐควรตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารและสาธารณูปโภคด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องใบอนุญาต เพราะในอดีตก็เคยเกิดเหตุไฟไหม้ภายในโรงแรมจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่พร้อมใช้งาน

นี่จึงไม่ใช่เรื่องเล็กหรือเป็นแค่ข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชน แต่คือเรื่องของความปลอดภัยสาธารณะและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นจำนวนมาก

มีข้อกฎหมายใดรองรับการดำเนินการบ้าง ?

• พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ในการก่อสร้างอาคารรุกล้ำลำน้ำ หรือปรับปรุงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
• พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 สำหรับการเปิดร้านอาหารโดยไม่มีใบอนุญาต
• พ.ร.บ.คุ้มครองแม่น้ำลำคลอง ที่ห้ามการก่อสร้างหรือถมลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต