เรื่องยังไม่จบ ? CPALL - CPAXT จังหวะนี้ซื้อ ถือ หรือ ถอย ?

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL" เปิดการซื้อขายเช้านี้ (22 พ.ค.68) ที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท คิดเป็น +2.06% ฟื้นตัวขึ้นหลังจากปิดซื้อขายวานนี้ (21 พ.ค.68) ที่ 48.50 บาท ลดลง -2.25 บาท คิดเป็น -4.43% มูลค่าการซื้อขาย 2,616.76 ล้านบาท

หลังผิดหวังรัฐบาลยกเลิกมาตรการแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 รวมมูลค่า 157,000 ล้านบาทโยกงบประมาณลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ขณะที่หุ้น "บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT" เปิดซื้อขายเช้านี้ที่ 20 บาท ก่อนล่าสุดแตะที่ 19.90 บาท ลดลง -0.10 บาท หลังจากวานนี้ปิดที่ 20 บาท ลดลง -2.10 บาท คิดเป็น -9.50% มูลค่าการซื้อขาย 1,074.93 ล้านบาท จากความกังวลการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์

CPALL - CPAXT ลงแรงผิดปกติ ?

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบว่า กลุ่มค้าปลีกที่ปรับลงมากกว่าตลาดในวันนี้ คาดเป็น Sentiment ลบต่อเนื่อง หลังจากโบรกเกอร์ต่างชาติปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยกดดันจากภาคท่องเที่ยวและการบริโภคที่ชะลอตัว รวมทั้งหุ้นกลุ่มค้าปลีกบางตัวถูกปรับราคาเหมาะสม หรือ คำแนะนำลง

อีกทั้ง Digital Wallet เฟส 3-4 ถูกรัฐฯชะลอ สร้างความผิดหวังต่อการกระตุ้นภาคบริโภคในระยะสั้น ขณะที่ภาคท่องเที่ยวชะลอต่อเนื่อง กดดันยอดขายสาขาในภาคท่องเที่ยวที่โดยปกติ ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะเติบโตได้แข็งแกร่งกว่าโดยเฉลี่ยหุ้นที่มีประเด็นเฉพาะตัว

นั่นจึงเป็นเหตุให้หุ้น CPAXT และ CPALL มีความกังวลจากการอยู่ระหว่างขายหุ้นกู้ของบริษัทอสังหาฯรายหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบริษัทไม่ได้ถือหุ้นและมีความเกี่ยวโยงกันโดยตรง

โดย CPAXT ตั้งงบลงทุน 15,000 ล้านบาท ในโครงการ Happitat การก่อสร้างเป็นไปตามแผน คาดเปิดให้บริการภายในไตรมาส 1/2569 บริษัทจะทำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง และบริหารพื้นที่เช่าเท่านั้น มีการยืนยันจะไม่มีการลงทุนส่วนอื่นของ The Forestias และโครงการอื่นๆของบริษัทอสังหาฯ

ในเชิงพื้นฐาน ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำซื้อ หุ้น CPAXT ให้ราคาเป้าหมาย 32 บาท และ หุ้น CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 65 บาท

ในเชิงกลยุทธ์ความกังวลของการตลาดสะท้อนมาในราคาหุ้นที่ถูกซื้อขายต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต PER25 ที่ 16-17 เท่า หุ้นไม่แพง แนะนำให้รอจับจังหวะเล่นรอบรีบาวด์ หากมีความชัดเจนและตลาดให้ความเชื่อมั่นว่าทั้งสองบริษัทไม่มีความเกี่ยวข้อง

แพนิคเกินเหตุ-เก็งกำไร CPAXT 

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า ฝ่ายบริหารชี้แจงหลังราคาหุ้นดิ่งแรง -9.5% วานนี้ จากความกังวลหลายประการ ซึ่งฝ่ายบริหารได้ชี้แจงประเด็นต่างๆดังนี้คือ โครงการก่อสร้างอาคาร The Happitat คืบหน้าไปแล้ว 95% ตามแผน โดยไม่มีความล่าช้าหรือค่าใช้จ่ายบานปลาย 

อาคารสำนักงานและอาคารค้าปลีกขนาดเล็กจะเปิดให้บริการในเดือนธ.ค.68 ขณะที่อาคารค้าปลีกหลัก รวมถึง Lotus’s club model เริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 1/68 และเปิดเต็มรูปแบบในช่วงต้นไตรมาส 2/68

ณ เดือน ก.พ.68 มีการจองพื้นที่แล้ว 50% สำหรับสำนักงาน และ 40-50% สำหรับค้าปลีก โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารคาดว่าโครงการจะถึงจุดคุ้มทุน EBITDA ในปี 2569 ภายใต้สมมติฐานการเช่า 40% สำหรับสำนักงาน และ 80% สำหรับค้าปลีก ซึ่งบริษัทยังคงคาดการณ์เดิม

บริษัทยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแผนจะเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นใดจากคู่สัญญานี้

โครงการ Happitat อาจมีต้นทุนการเงินที่ลดลง โดยการออกหุ้นกู้มีแนวโน้มได้อัตราดอกเบี้ยต่ากว่า 3% เทียบกับประมาณการเดิมที่ 3.6-3.7% ในประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ คาดว่าโครงการจะขาดทุนราว 250-350 ล้านบาทในปี 2569

ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในเดือนพ.ค.68 โดย SSSG ไตรมาสปัจจุบันของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกอยู่ในระดับบวกเล็กน้อยหรือทรงตัว และคาดว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเดือนมิ.ย.68 ส่วน ยอดขาย Horeca ของ Makro ยังเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY)แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง

การเปิดประมูลขาย Lotus’s สาขาภูเก็ตอยู่ระหว่างดำเนินการ โดย AXTRART จะประกาศผลการประมูลในวันที่ 25 มิ.ย.68 ทั้งนี้ CPAXT มีสิทธิปฏิเสธการซื้อก่อน (first right of refusal) สำหรับดีลนี้ แต่จะพิจารณาบนพื้นฐานประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าตลาด Panic กับข่าวมากเกินไป ขณะที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยพื้นฐานของ CPAXT อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการอ่อนตัวลงแรงของราคาหุ้นน่าจะเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร

กระทบพื้นฐานจำกัด

บล.บัวหลวง ระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับการขายหุ้นกู้ของบริษัทอสังหาอาจกดดัน sentiment ราคาหุ้น CPALL และ CPAXT ระยะสั้น แต่เชิงพื้นฐานคาดกระทบจำกัด เพราะไม่มีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยยะ โดยที่ผ่านมามีเพียงโครงการ happitat ที่ CPAXT ถือ 95% เงินลงทุน 8,400 ล้านบาท

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำซื้อหุ้นCPALLราคาเป้าหมาย70บาทและCPAXTราคาเป้าหมาย32บาท