posttoday

หุ้นเจ้าสัวเดือด! ซีพีเอฟ โกยกำไรไตรมาส 1/68 พุ่งแรง 6 เท่า

14 พฤษภาคม 2568

CPF โกยยอดขายไก่-หมูในประเทศและต่างประเทศ บวกคุมต้นทุนได้ดี หนุนกำไรไตรมาส 1/2568 เติบโต 6 เท่า แตะระดับ 8,549 ล้านบาท

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เผยผลดำเนินงานไตรมาส 1/2568 มีกำไร 8,549 ล้านบาท  เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 642% หรือโต 6 เท่า จากความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

และความเคร่งครัดของระบบป้องกันโรคในฟาร์มที่เข้มงวด ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยท่ามกลางโรคระบาด สะท้อนศักยภาพผู้นำเกษตรอาหารที่ให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพ 
 
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าวว่า การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปีนี้ดีเด่นขึ้น  มาจากการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ประกอบกับการระบาดของโรคสัตว์โดยเฉพาะไข้หวัดนกซึ่งกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก และโรค ASF ของสุกรที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มีผลทำให้จำนวนไก่และสุกรมีน้อยกว่าปกติ ตลอดจนราคาวัตถุดิบอยู่ในฐานที่ยังไม่สูงเกินไป ทำให้ผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ซีพีเอฟลงทุนไว้มากกว่า 10 ประเทศ

ผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาสแรกปีนี้ เป็นบทพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของทีมงานทั่วโลกและความสามารถในการปรับตัวอย่างยั่งยืนในทุกสภาพแวดล้อม การลงทุนของบริษัทที่เน้นเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนการนำระบบ IT ที่นำมาใช้ในเรื่องการบริหารจัดการ

รวมทั้งความมุ่งมั่นในการยกระดับความปลอดภัยทางชีวภาพและการป้องกันโรคในการเลี้ยงสัตว์อย่างเป็นระบบ ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรตลอดห่วงโซ่อุปทาน บริษัทจึงสามารถรักษาเสถียรภาพในการผลิตและสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมมีการปรับสมดุลจากความท้าทายในอดีต

ส่วนปัญหาความปั่นป่วนจากเรื่องภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีผลกระทบกับซีพีเอฟ เพราะมีการลงทุนในธุรกิจอาหารพื้นฐานที่ราคาไม่แพง มีการผลิตอยู่ในกว่า 10 ประเทศและขายในประเทศนั้นเป็นหลัก

ขณะที่บริษัทพึ่งพาการส่งออกประมาณ 4-5% โดยการส่งออกส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศในเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยุโรป เป็นหลัก ส่งออกไปสหรัฐฯ ประมาณ 0.3% เท่านั้น

"จากภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้นในการเลี้ยงสัตว์ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงโควิดที่กลับมาในช่วงนี้ ผู้บริหารทุกคนได้ให้ความสำคัญด้านการบริหารงานภายใต้แนวทางการบริหารความเสี่ยงรอบด้าน ลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มที่ดีที่ชัดเจน และที่สำคัญได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิต การป้องกันโรคระบาดตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยในการดำเนินงานอย่างครอบคลุม"

ข่าวล่าสุด

กกต. เห็นชอบร่างแผนเลือกตั้ง – กำหนดวันใช้สิทธิ์ 8 ก.พ. 69