สรุปงบ Q1/68 "กลุ่ม ปตท." ส่องกำไร Q2 ไปต่อ หรือ ร่วงก่อน ?
หุ้นกลุ่ม ปตท. โชว์งบไตรมาส 1/2568 สะท้อนภาพแรงกดดันจากราคาน้ำมันผันผวน ต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน จับตาไตรมาส 2/2568 ฟื้นต่อ หรือ ร่วงต่ำ ?
KEY
POINTS
- หุ้นกลุ่ม ปตท. โชว์งบไตรมาส 1/2568 สะท้อนภาพแรงกดดันจากราคาน้ำมันผันผวน ต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน
- จับตาทิศทางไตรมาส 2/2568 ฟื้นต่อ หรือ ร่วงต่ำ ?
ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 หุ้น "กลุ่ม ปตท." ออกมา "ไม่ธรรมดา" ทั้ง PTT, PTTEP, PTTGC, OR, IRPC และ GPSC กำไรสะท้อนภาพความผันผวนราคาพลังงานและเศรษฐกิจโลกที่ยังไร้เสถียรภาพ
คำถามคือ . . .
ไตรมาส 2/2568 หุ้นกลุ่มพลังงานจะฟื้นตัวต่อหรือไม่?
นโยบายภาครัฐ-ราคาน้ำมันโลกจะกดดันหรือหนุนทิศทางทั้งปี?
จังหวะนี้ นักลงทุนควร “ซื้อ ถือ หรือ ขาย” ?
สรุปผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของ "กลุ่ม PTT"
PTT ภาพรวม Q2/68 ดี
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำถือ หุ้นของ "บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT" ราคาพื้นฐาน 35 บาท การปรับโครงสร้างเป็น Pooled gas ทำให้เสี่ยงขึ้น PTT มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 เท่ากับ 23.3 พันล้านบาท ลดลง -20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 150% จากไตรมาสก่อนหน้าเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้
ซึ่งการลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจาก 1)ผลประกอบการธุรกิจก๊าซของบริษัทชะลอตัวลง ทั้งจากปริมาณขายที่ลด และต้นทุนก๊าซสูงขึ้น และ 2)ผลดำเนินงานบริษัทย่อยอ่อนแอลง แต่การฟื้นตัว QoQ เป็นเพราะธุรกิจของบริษัทย่อยดีขึ้น, ค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง QoQ และมีกำไรจาก FX 4.5 พันล้านบาท
แนวโน้มไตรมาส 2/68 ธุรกิจโรงกลั่น ทั้ง IRPC, PTTGC, TOP ดีขึ้น จากค่าการกลั่นฟื้นตัวในเดือน พ.ค. ธุรกิจโอเลฟินส์ IRPC, PTTGC มีสเปรดที่ดีขึ้น หนุนโดยต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาและคอนเดนเสทที่ลดลง แต่ธุรกิจอะโรเมติกส์ (PTTGC, TOP) ยังเผชิญกับมาร์จิ้นที่อ่อนแอ เพราะอุปสงค์ซบเซา ขณะที่อุปทานอยู่ในระดับสูง
ส่วน ธุรกิจก๊าซและโรงไฟฟ้า PTT, GPSC มีความเสี่ยงจากการนำ Single pooled gas มาใช้ โดยภาพรวมธุรกิจดีขึ้นในไตรมาส 2/68 แต่ในระยะต่อไปยังมีความท้าทายจากภาวะอุปทานล้นในธุรกิจปิโตรเคมี จากการมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง และมีความไม่แน่นนอนจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ด้านพลังงานของรัฐบาล
PTTEP กำไร Q2 ทรงตัว
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินแนวโน้มกำไรปกติของ "บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP" ในไตรมาส 2/68 จะทรงตัวถึงดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/68 รับผลบวกจากปริมาณการขายปิโตรเลียมที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแผนหยุดซ่อมบำรุงโดยรวมที่ลดลง โดยประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2568 จะอยู่ราว 6.8 หมื่นล้านบาท
PTTEP หนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแรงหนุน REBALANCE หากกองทุนต้องการเพิ่มน้ำหนัก THAIESGX ในหุ้นกลุ่มที่มี Ratingระดับ A ขึ้นไป อีกทั้งราคาหุ้นยัง Laggard ราคาน้ำมันดิบโลกอยู่พอสมควรตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.68 จึงถือเป็นโอกาสสะสม
กลยุทธ์ Selective Buy ให้ราคาเป้าหมาย 165 บาท หุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในต่างประเทศน้อย และที่สำคัญคือ ราคาปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ มี Upside สูง โดย PTTEP มีสัญญาณ Reversal ดีดกลับจากกรอบล่าง Sideways Down รอบย่อยฟื้นกลับ “Double Bottoms” พร้อม RSI ที่ฟื้นตัวจาก Oversold จะยืนยันรอบอย่างน้อยต้องข้าม EMA 10วัน ที่ 99 บาท Upside ที่ 107-111 บาท
OR ไตรมาส 2/68 วูบ
นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 2/68 ของ "บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR" คาดลดลงจากไตรมาส 1/2568 ฝ่ายวิเคราะห์คาดตลาดกังวลต่อการจัดโปรโมชั่นที่แรงเพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดให้กลับมา ซึ่ง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 35.3% เฉพาะตลาดค้าปลีกซึ่งคาดจะเพิ่ม 2-3% โดยจะลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิดให้กับสมาชิกบลูพลัส โดยเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ลด 0.50 บาทต่อลิตร และพรีเมียมแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลิตรละ 3 บาท ระยะเวลา 1 เม.ย.-30 มิ.ย.2568 ซึ่งคาดจะเป็นหนึ่งปัจจัยที่กดดันการดำเนินงานให้ลดลงเพราะ OR จะเป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมดังกล่าวเอง Bloomberg Consensuss ให้ราคาเป้าหมาย 14.49 บาท
ไตรมาส 2 ปีนี้เราคาดจะอ่อนลงจากไตรมาส 1 ทั้งจากปริมาณขายน้ำมันที่ลดลง และการจัดโปรโมชั่นที่แรงเพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้น 2-3% แม้คาดตลาดอาจจะปรับประมาณการขึ้นจากกำไรที่ดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาสะท้อนงบที่ดีแล้ว และยังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่จะลดลงอีกด้วย ในเชิงกลยุทธ์แนะรอย่อค่อยเข้าซื้อดีกว่า
PTTGC อัพไซด์จำกัด
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำถือ "บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC" ราคาเป้าหมายเดิมปี 2025E ที่ 21 บาท เชื่อว่าผลประกอบการจะดีขึ้นจากไตรมาส 1/68 ตาม PE spread และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่ดีขึ้นนับตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน โดยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 2,100 ล้านบาท และปี 2569 คาดกำไร 3,300 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน 2.98 หมื่นล้านบาทในปี 2567
โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ คือ 1) บริษัทจะไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets)
2) ค่าใช้จ่ายทางการเงินจะต่ำลง และ HDPE spread ที่ทรงตัวในช่วง 340-360 เหรียญฯต่อตัน เทียบกับปี 2567 ที่ 339 เหรียญฯต่อตัน
ราคาหุ้น PTTGC ปรับตัวลง 18% และ underperform SET 2% ใน 6 เดือน สะท้อนความกังวลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยังคงอยู่ในภาวะ oversupply ทั้งนี้ แม้ราคาล่าสุดสะท้อนปี 2568 PBV ที่ไม่แพงที่ 0.35 เท่า ประมาณ -2.75SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง แต่มี upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายของเราแล้ว
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT" ปิดการซื้อขายวันนี้ (13 พ.ค.68) อยู่ที่ 31 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,570.39 ล้านบาท
หุ้น "บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP" อยู่ที่ 103 บาท เพิ่มขึ้น 1.48 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,498.59 ล้านบาท
หุ้น "บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC" อยู่ที่ 20.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,259.27 ล้านบาท
หุ้น "บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC" อยู่ที่ 34.25 บาท ราคาปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 253.06 ล้านบาท
หุ้น "บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP" อยู่ที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 826.50 ล้านบาท
หุ้น "บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC" อยู่ที่ 0.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท มูลค่าการซื้อขาย 40.58 ล้านบาท
หุ้น "บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR" อยู่ที่ 13.60 บาท ลดลง -0.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 631.98 ล้านบาท


