posttoday

ย้อนไทม์ไลน์ KEX จากหุ้น “ไอพีโอ” สู่ เพิกถอนออกจากตลาดหุ้น

02 พฤษภาคม 2568

ส่องไทม์ไลน์ KEX จากหุ้น IPO สู่เพิกถอนออกจากตลาดหุ้น หลัง SFTH เสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด 651 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.57% ราคา 1.50 บาท/หุ้น ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 20 มิ.ย.นี้

KEY

POINTS

  • ส่องไทม์ไลน์ KEX จากหุ้น IPO เดินหน้าสู่การเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
  • SFTH เสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดกว่า 651 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.57% ราคา 1.50 บาท/หุ้น
  • เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ 20 มิ.ย.นี้

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ได้เข้ามาเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2563 ด้วยราคาไอพีโอ 28.00 บาทต่อหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท  

จากนั้นราคาหุ้น KEX ได้ทำราคาสูงสุด ด้วยราคา 73.00 บาท และทำราคาต่ำสุดตั้งแต่ทำการซื้อขาย ที่ราคา 0.78 บาท เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2568 

การแข่งขันในตลาดขนส่งพัสดุด่วน (Express Delivery) ที่ดุเดือด สะท้อนมายังผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี ของ KEX จาก “กำไร” กลายเป็น “ขาดทุน”

ปี 2563 

  • รายได้รวม 19,010.05 ล้านบาท 
  • กำไรสุทธิ 1,405.03 ล้านบาท 

ปี 2564 

  • รายได้รวม 18,972.08 ล้านบาท 
  • กำไรสุทธิ 46.92 ล้านบาท 

ปี 2565 

  • รายได้รวม 17,145.04 ล้านบาท 
  • ขาดทุนสุทธิ 2,829.84 ล้านบาท 

ปี 2566 

  • รายได้รวม 11,541.48 ล้านบาท 
  • ขาดทุนสุทธิ 3,880.64 ล้านบาท 

ปี 2567

  • รายได้รวม 9,616.00 ล้านบาท 
  • ขาดทุนสุทธิ 5,911.32 ล้านบาท 

จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ โดย S.F.Holdings Co., Ltd. (SF) เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผ่าน บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (SFTH) และได้เปลี่ยนชื่อจาก “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)” เป็น “เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)” 

นอกจากนี้ ยังได้ปรับเปลี่ยนเครื่องหมายการค้า (Rebranding) จากแบรนด์ “Kerry” มาใช้แบรนด์ “KEX” แทน 

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2568 มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20 มิ.ย.2568 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) 

หลังจากบริษัทได้รับหนังสือแสดงเจตนาฉบับลงวันที่ 30 เม.ย.2568 จาก บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (SFTH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท (ณ วันที่ 7 มี.ค.2568 SFTH ถือหุ้นในบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 2,853,952,48 9หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 81.43% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท) เสนอให้บริษัทเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยสมัครใจ 

พร้อมทั้งแจ้งความประสงค์ที่จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทที่ไม่ได้ถือโดย SFTH ซึ่งรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 651,017,806 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.57% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาเสนอซื้อหุ้นที่ราคา 1.50 บาทต่อหุ้น 

ในการนี้ SFTH จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ ภายหลังจากที่เงื่อนไขบังคับก่อนดังต่อไปนี้สำเร็จครบถ้วนทุกประการ

(1) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยสมัครใจ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยที่ต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนหุ้นเกินกว่า 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทตามหลักเกณฑ์การเพิกถอนหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

(2) การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ จะต้องได้รับการอนุมัติ และ/หรือ การผ่อนผันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ และคู่สัญญาใดๆ และ/หรือ บุคคลภายนอก ภายใต้สัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้อง (หากจำเป็น) 

(3) SFTH ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นจะต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้นของ SFTH (กลุ่ม SF) เป็นจำนวนที่เพียงพอและสามารถใช้สำหรับการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ การทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนตามข้อ (1) (2) และ (3) สำเร็จลงจะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ แม้ว่าผู้ถือหุ้นของบริษัท (นอกจาก SFTH) ไม่ได้แสดงเจตนาขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อ SFTH ตามคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ ครบทุกราย 

KEX กำลังจะปิดฉากในตลาดหุ้นไทย หลังเพิ่งเข้ามาได้เพียง 4 ปีกว่า 

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท