posttoday

ปมขัดแย้งระหว่างประเทศ ฉุดดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า “ซบเซา”

11 มีนาคม 2568

FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า (พ.ค.68) อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” หลังสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ-เงินเฟ้อ-เศรษฐกิจในประเทศถดถอย ฉุด หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-เงินทุนไหลเข้า หนุน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ 2568) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พฤษภาคม 2568) ปรับลงมาอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ที่ระดับ 66.11 

ผลสำรวจ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล ปรับลดลง 37.9% อยู่ที่ระดับ 50.00 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ปรับเพิ่มขึ้น 25.0% อยู่ที่ระดับ 75.00 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ปรับลดลง 33.3% อยู่ที่ระดับ 66.67 อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้น 3.8% อยู่ที่ระดับ 115.38 อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว”  

ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมา คือ การไหลเข้าของเงินทุน และการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. 

ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ สถานการณ์เงินเฟ้อ และการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ

ขณะเดียวกัน หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK) ส่วนหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดยานยนต์ (AUTO)

ปมขัดแย้งระหว่างประเทศ ฉุดดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า “ซบเซา”

สำหรับในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 SET Index ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย อาทิ ความกังวลต่อสงครามการค้าที่อาจจะรุนแรงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ประกาศเริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาเม็กซิโกและจีน ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนรายชื่อหุ้นไทยใน MSCI การทยอยไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบกำหนด และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีหลายบริษัทเปิดเผยออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แม้ว่า กนง. จะมีการประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.0% ต่อปี 

โดย SET Index ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปิดที่ 1,203.72 ปรับตัวลดลง 8.4% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 52,041 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,623 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 18,127 ล้านบาท

ทางด้านปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตามได้แก่ ทิศทางของสงครามการค้าและผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชีย การทำข้อตกลงยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ นโยบายการเงินการคลังของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดทุน อาทิ แผนการออกกองทุนใหม่ที่จะให้มีการโยกกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (LTF) มาอยู่ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) 

โดยล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบจัดตั้งกองทุน Thai ESGX รับเม็ดจาก 2 ส่วน 1.LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอน รับสิทธิลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท ระยะเวลา 5 ปี และ 2.เม็ดเงินใหม่ รับสิทธิลดหย่อนภาษี 3 แสนบาท เปิดให้ซื้อหน่วยลงทุน พ.ค.-มิ.ย.2568

ข่าวล่าสุด

MIXUE ไทยบริจาค 1 ล้านบาท เร่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้