กองทรัสต์ IMPACT งบไตรมาส 1 ปี 67/68 กำไรสุทธิ 379 ล้าน พุ่ง 76.1%
กองทรัสต์ “IMPACT” ประกาศงบไตรมาส 1 ปี 67/68 กำไรสุทธิ 379 ล้านบาท พุ่ง 76.1% รายได้ 644.8 ล้านบาท โต 50.8% รับอัตราใช้พื้นที่งานอีเวนต์คึกคัก Occupancy Rate แตะ 48.8% บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.22 บาท/หน่วย ขึ้น XD 27 ส.ค.นี้
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2567/2568 (สิ้นสุด 30 มิ.ย.2567) กองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 644.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 379 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยรวม 48.8% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน และงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยรวม 85.8 บาทต่อตารางเมตร
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับไตรมาส 1 ประจำปี 2567/2568 ที่ 0.22 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงที่สุดของไตรมาส 1 ของกองทรัสต์ฯ โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) เป็นวันที่ 27 ส.ค.2567 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิรับเงินปันผลเป็นวันที่ 29 ส.ค.2567 และจะจ่ายในวันที่ 13 ก.ย.2567
ทั้งนี้ ปัจจุบัน IMPACT มีทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (ฮอลล์ 1-3) ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (ฮอลล์ 4) และศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ฮอลล์ 5-12) ซึ่งทรัพย์สินทั้ง 4 แห่ง ตั้งอยู่ในโครงการอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพื้นที่รวม 479,761 ตร.ม. และพื้นที่จัดแสดงงานสุทธิ 122,165 ตร.ม. ด้วยจุดเด่น เป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีฐานลูกค้าหลากหลาย ทั้ง รัฐบาล เอกชน และต่างประเทศ ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงได้ดี และมีอัตราการใช้พื้นที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในไตรมาส 1 ปีนี้ (เม.ย.-มิ.ย.) มีการจัดงานรวมจำนวนทั้งสิ้น 136 งาน ได้แก่ งาน Bangkok International Motor Show, Herbalife APAC Extravaganza, Money Expo, ThaiFEX-Anuga Asia, Thailand Baby and Kids Best Buy, Architect, OTOP Midyear, ONE Championship, และคอนเสิร์ตอีกหลากหลายศิลปินทั้งในและต่างประเทศ สอดรับสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก เป็นปัจจัยสนับสนุนอุตสาหกรรม MICE มีการจัดงานแสดงสินค้า งานสัมมนา
รวมทั้งการจัดงานอีเวนต์เพิ่มขึ้น เป็นโอกาสของอุตสาหกรรมศูนย์ประชุมให้กลับมาเติบโต โดยเฉพาะ IMPACT เป็นศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีงานแสดงสินค้าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งยังไม่นับรวมโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ Sky Entrance ปัจจุบันดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วถึง 28.48% (ข้อมูล ณ เดือน มิ.ย.2567) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2568 ซึ่งเป็นทางเดินในร่มเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี) และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินหลักที่ กองทรัสต์ IMPACT เข้าลงทุน สามารถต่อยอดธุรกิจ และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้ รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างมองหาโอกาสการเติบโตให้กองทรัสต์ฯ แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในอนาคต


