posttoday

TOA จ่ายปันผลครึ่งปีแรก 0.33 บาท/หุ้น ขึ้น XD 28 ส.ค.67

14 สิงหาคม 2567

TOA ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.33 บาท/หุ้น ขึ้น XD 28 ส.ค.67 แม้ผลงานไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 477 ล้านบาท ลดลง 36% ส่งผลครึ่งปีแรก กำไร ลดลง 6.7% มาอยู่ที่ 1,281 ล้านบาท ท่ามกลางภาคอสังหาฯ ชะลอตัวทำให้ยอดขายสีทาอาคารปรับตัวลดลง ส่วนครึ่งปีหลังเตรียมพร้อมรับความท้าทาย

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท วันที่ 14 ส.ค.2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 (1 ม.ค.-30 มิ.ย.2567) ในอัตรา 0.33 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 ส.ค.2567 และกำหนดจ่ายปันผล วันที่ 13 ก.ย.2567

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 477 ล้านบาท ลดลง 36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามยอดขายที่ปรับตัวลดลง และการรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จากการแปลงค่าสินทรัพย์หนี้สินในต่างประเทศ เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงปลายไตรมาส 2/2567 ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว อยู่ที่ 594 ล้านบาท ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 1,281 ล้านบาท ลดลง 6.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังคงตัวอยู่ในระดับสูง โดยในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 34.4% เท่ากับช่วงเดียวกันปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นงวด 6 เดือนแรก ปี 2567 อยู่ที่ 35.1% สูงขึ้นจากครึ่งแรกปี 2566 อยู่ที่ 33.6% เป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านวัตถุดิบและต้นทุนผลิต แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงไตรมาส 2/2567

ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 5,456 ล้านบาท ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และรายได้รวมงวด 6 เดือนแรก ปี 2567 อยู่ที่ 10,941 ล้านบาท ลดลง 2.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องมาจากผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นปี กำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลงทั้งจากภาระดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงิน ส่งผลโดยตรงให้ความต้องการใช้สีเพื่อตกแต่งและซ่อมแซมบ้านชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ยอดขายสินค้าในกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้างและยิปซั่มบอร์ดมีการเติบโตขึ้น จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ยังคงมีความท้าทายทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะส่งผลถึงความต้องการใช้สีและวัสดุก่อสร้าง รวมถึงความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการกีดกันการค้าระหว่างประเทศที่จะส่งผลต่อ supply chain ซึ่งมีผลต่อราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิต 

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมความพร้อมและการบริหารความเสี่ยงทั้งการขยายธุรกิจที่เป็นมากกว่าสีทาอาคาร การจัดการด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย และปรับกระบวนการภายใน ทำให้บริษัทมีผลงานที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรม นอกจากนี้บริษัทมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบ นำส่งการปรับแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับบริบทการดำเนินธุรกิจในแต่ละช่วงเวลา

นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าในกลุ่มสี premium และสีรักษ์โลกเพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความคงทนของสีในยุคปัจจุบันที่ค่าแรงช่างทาสีมีแนวโน้มสูงขึ้น และการลดปัญหาโลกร้อน โดยใช้สีที่มีฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ 

ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารของ TOA มี “ฉลากลดโลกร้อน” หรือ (Carbon Footprint Reduction label : CFR) ที่ผ่านการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) มากที่สุดในตลาดสีทาอาคารถึง 40 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ‘สี SuperShield’ ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีสีบ้านเย็น Cooling Paint ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ได้สูงถึง 97.5% และคายความร้อนออกจากผนังบ้านได้ถึง 90% จึงช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นลงได้ถึง 5.5 องศาเซลเซียส ช่วยประหยัดพลังงานเซฟค่าไฟ ที่สำคัญยังสามารถช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้จากเดิมอีกด้วย 

ทั้งนี้ การพัฒนานวัตกรรมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สู่การเป็นองค์กร Net Zero เพื่อสร้างองค์กรสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งพัฒนาองค์กรในหลากมิติเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจ และเป็นองค์กรที่สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68