HMPRO กวาดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 67 กว่า 3,334 ล้าน โต 3.20%
HMPRO งบไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิ 1,621.70 ล้านบาท ทรงตัว ส่วนรายได้รวมลดลง 1.94% มาอยู่ที่ 18,535.25 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก กำไรสุทธิ โต 3.20% แตะ 3,334.54 ล้านบาท จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy E-Receipt รับรู้รายได้การเปิดสาขาใหม่-ช่องทางออนไลน์ หนุนรายได้เพิ่มขึ้น
นางสาววรรณี จันทามงคล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,621.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.11% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,619.87 ล้านบาท
ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 18,535.25 ล้านบาท ลดลง 1.94% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 18,902.67 ล้านบาท โดยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วย รายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมอยู่ที่ 17,398.18 ล้านบาท ลดลง 2.20% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 17,788.83 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการชะลอตัวของการบริโภคในประเทศ สืบเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโตในระดับต่ำ การเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยที่เร็วขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. รวมถึงการงดจัดงาน HomePro Fair ที่เชียงใหม่ ในช่วงไตรมาส 2 และโครงการปรับปรุงถนนในพื้นที่หน้าโฮมโปรสาขาราชพฤกษ์ ส่งผลให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สาขาลดลง
รายได้ค่าเช่า อยู่ที่ 458.01 ล้านบาท ลดลง 1.21% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 463.59 ล้านบาท เป็นผลมาจากการงดจัดงาน HomePro Fair ที่เชียงใหม่ โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการจัดงาน HomePro Super Expo ที่ช่องทางสาขา และออนไลน์แทน
ส่วนรายได้อื่น อยู่ที่ 679.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.43% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 650.24 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มการจัดจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ด้านการขยายสาขาในไตรมาส 2/2567 บริษัทได้มีการเปิดสาขาเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ โฮมโปร สาขาลำพูน และเมกาโฮม สาขาอุดรธานี จึงทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทมีโฮมโปร 90 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 28 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,334.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,230.99 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมอยู่ที่ 37,322.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.45% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 37,154.54 ล้านบาท
โดยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วย รายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมอยู่ที่ 35,062.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 35,012.30 ล้านบาท โดยมีปัจจัยจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy E-Receipt ของทางรัฐบาล การรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ของโฮมโปรและเมกาโฮม รวมถึงช่องทางออนไลน์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 จะมีปัจจัยของสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและฤดูฝนที่มาเร็วซึ่งส่งผลให้ยอดขายปรับตัวลดลงก็ตาม
รายได้ค่าเช่า อยู่ที่ 908.84 ล้านบาท ลดลง 3.38% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 940.58 ล้านบาท เป็นผลมาจากการงดจัดงาน HomePro Expo ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในช่วงเดือน มี.ค. และงาน HomePro Fair ที่เชียงใหม่ โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการจัดงาน HomePro Super Expo ในช่วงเดือน เม.ย. แทน ผ่านช่องทางสาขาและออนไลน์
รายได้อื่น อยู่ที่ 1,351.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.51% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,201.66 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน


