posttoday

สถานีถัดไปหุ้นไทย 1415 พรุ่งนี้จับตา "กนง.-ดิจิทัลวอลเล็ต"

09 เมษายน 2567

หุ้นไทยวันนี้ปิดเหนือ 1400 สำเร็จ โบรกลุ้นพรุ่งนี้ไปต่อ ต้านถัดไป 1415 จุด พร้อมจับตาผลประชุม กนง. - Digital Wallet ไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(9 เม.ย. 2567) อยู่ที่ 1,401.11 จุด เพิ่มขึ้น 25.53 จุด คิดเป็น +1.86% มูลค่าการซื้อขาย 47,743.75 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,401.11 จุด และลดลงต่ำสุด 1,376.83 จุด

สถานีถัดไปหุ้นไทย 1415 พรุ่งนี้จับตา \"กนง.-ดิจิทัลวอลเล็ต\"

10 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ดังนี้

สถานีถัดไปหุ้นไทย 1415 พรุ่งนี้จับตา \"กนง.-ดิจิทัลวอลเล็ต\"

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า หุ้นไทยวันนี้(9 เม.ย.67) ปิดที่ 1401.1 จุด บวกสอดคล้องกับประเทศในเอเชีย มูลค่าการซื้อขายเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 4.78 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนหุ้นปรับขึ้น 340 บริษัท และ ลดลง 148 บริษัท กลุ่ม Sector ที่หนุนดัชนีหลักๆ คือกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) กลุ่มพลังงาน (GULF, EA) กลุ่มอสังหา (CPN, AWC) ฯลฯ  กลุ่มที่กดดัชนีคือ โรงพยาบาล (BCH)ฯลฯ 

     โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ AOT +2.2% ปรับขึ้นรับ 1.ยอดผู้ใช้บริการสนามบิน AOT ไป ตปท. 1-6 เม.ย. เร่งขึ้นสู่ 89.6% ของช่วง Pre-COVID vs 1Q24 ที่ 84.9% 2.นายกรัฐมนตรี มอบให้กระทรวงการคลังศึกษาผลการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร นำกลับมาเสนอ ครม.ใน 30 วันข้างหน้า KCS ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกเพราะรัฐบาลยังเดินหน้าโครงการต่อ มองเป็นสัญญาณที่ดีต่อโอกาส Upside นักท่องเที่ยวปี 24F KCS ประเมิน 36 +/- ล้านคน มี Upside ตลาดประเมิน 5-7% ยังมองหุ้นภาคบริการน่าสนใจ เน้น AOT(TP24F Con-75.3)

     ขณะที่ GPSC +3.8% , GULF +2.9% , BGRIM +0.9% กลุ่มโรงไฟฟ้า ปรับขึ้นมีจิตวิทยาบวกจาก ค่าเงินบาทวันนี้ล่าสุดเคลื่อนไหวแข็งค่าอยู่ในระดับ 35.56 บาท จากช่วงเช้าเฉียด 35.8 บาท  เก็งภาพพรุ่งนี้ 1) คาด กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 2) ความชัดเจนแหล่งที่มาของนโยบาย Digital Wallet ซึ่งน้ำหนักระยะถัดไปค่อนไปที่การใช้งบประมาณ ทำให้ระยะสั้นคาดว่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่อง GPSC (TP-65) ทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าจะหนุน Upside กำไรราว 4% GULF (TP-45.5) ทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าจะหนุน Upside กำไรราว 2%

     CPALL +0.45% ราคาหุ้นเริ่มปรับขึ้น ทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ มีโอกาสปรับขึ้นต่อ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 76.0 บาท มีปัจจัยหนุนจาก Outlook กำไร 1Q24F เด่น คาดที่ 4.83 พันลบ. (+28%y-y แต่ -14%q-q ตามฤดูกาล) โดย y-y โตดีสุดในกลุ่มค้าปลีกและ Valuation ถูก ซื้อขายบน PER ปี 24F เพียง 24เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีตราว -2.0SD  Catalyst หนุนราคาหุ้นระยะสั้นคือ นโยบาย Digital Wallet วันพรุ่งนี้ 10 เม.ย. มีข้อสรุป หากถูกผลักดันออกมาเป็นบวกต่อการบริโภคและบวกต่อหุ้นค้าปลีก  CPALLกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อ  ราคาเป้าหมายพื้นฐาน  76.0 บาท  และให้เป็นหุ้นเด่นกลุ่ม  

     SCGP +5.04% ราคาหุ้นปรับขึ้นแรง Break แนวต้านโซน 30.5 บาท  ยังคงมุมมองบวก แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 38.5 บาท บนธีม China play  คาดกำไรปกติ 1Q24F เติบโต y-y, q-q /Valuation: ซื้อขาย PER2024F ที่ 21.9 เท่า ขณะที่กำไรปี 2024-25 +22.7% และ 23.7%/ค่าระวางเรือโลกปรับลงต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ -3%w-w อยู่ที่ 2836 เหรียญต่อ 40 ft แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 38.5 บาท  

     TTB +3.4%, SCB 2.2%, KBANK +1.2%, BBL +2.55%, KTB +1.2% ปรับตัวตอบรับ มุมมองการประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% โดยคาดสัญญาณเป็น Dovish มติไม่เป็นเอกฉันท์ มองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มธนาคาร และหลังสงกรานต์ เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลทยอยรายงานงบ โดยหุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคารแนะนำ KTB(TP24F-20) , TTB(TP24F-2.20)

   SC +4.79% SIRI +4.14% , LH +3.4%, AP +2.8% SPALI +1.9% ปรับขึ้นเก็งรัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหา(Property Stimulus) โดยวันนี้ ครม. มีข้อสรุป อาทิ 1) เห็นชอบลดค่าจดทะเบียนโอน-จำนองทั้งบ้านมือ 1-มือ 2 เหลือ 0.01% มีผลถึง 31 ธ.ค.2024 และ ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับสร้างบ้านใหม่สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท เน้น SPALI, AP, SIRI

     NEX +6.3% (Non - cover)ปรับตัวขึ้น รับข่าวผนึกโตโยต้า-เดนโซ่ ร่วมพัฒนารถ EV-พลังงานไฮโดรเจนรายแรกของไทย หากโครงการความร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ทางกลุ่มผู้พัฒนามีแผนที่จะขยายขนาดของโครงการเป็นฟลีทขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพของห่วงโซ่อุปทานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศ โดยจะใช้จุดแข็งของ TOYOTA TSUSHO DENSO และ NEX มาผสานให้เกิดความแข็งแกร่งร่วมกัน 

 

หุ้นไทยพรุ่งนี้ลุ้นไปต่อ

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวสวย ผ่านด่าน 1400 จุด แนวต้านถัดไป 1415 จุด โดยประเด็นวันพรุ่งนี้(10 เม.ย.67)จับตาการประชุม กนง.ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เนื่องด้วยเสียงแตกในการประชุมที่ผ่านมา ดังนั้นต้องติดตามผลการประชุมอย่างต่อเนื่อง

     อย่างไรก็ดี หุ้นไทยวันพรุ่งนี้ลุ้นขึ้นต่อ โดยโซนต่ำกว่า 1400 ไม่แพงเป็นโซนสะสมพลัง ส่วนมุมมองต่างชาติอาจจะยังไม่เปิดใจกับหุ้นไทยมากนัก แต่ถ้าหุ้นไทยกลับมาจริงๆเชื่อว่าต่างชาติน่าจะกลับเข้ามาได้เพราะเป็นตลาดหุ้นที่คุ้นเคยดีอยู่แล้ว

 

จับตา กนง.-Digital Wallet

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วันพรุ่งนี้มีการประชุม กนง. Bloomberg คาดคงดอกเบี้ย 2.50% และมีการประชุม Digital Wallet คาดจะเห็นแนวทางของนโยบายดังกล่าวชัดเจนขึ้น 

     นอกจากนี้ หอการค้าไทย คาดการณ์ว่าช่วงสงกรานต์ 5 วัน (12-16 เม.ย.) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 465,383 คน คาดสร้างรายได้ 11,802 ล้านบาท โดยหากรวมเม็ดเงินหมุนเวียนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในช่วงสงกรานต์ 5 วัน จะมีมูลค่า 140,636.2 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 0.79% หนุนกลุ่มท่องเที่ยวมีโอกาสกลับเข้ามาเก็งกำไร AOT AWC AAV BEM CENTEL ERW

     ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ มีอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ตลาดคาด +3.5%YoY (สูงกว่าเดือนก่อนที่ +3.2%YoY) และวันที่ 11 เม.ย.67 มีการประชุม FOMC Meeting คาดทำให้เห็นแนวทางของนโยบายทางการเงินของ FED มากขึ้น