posttoday

“ดาว-ลภัสรดา” หญิงแกร่ง ซีอีโอใหม่ MASTER สานต่อภารกิจ Specialty Hospital

25 มีนาคม 2567

“ดาว-ลภัสรดา เลิศภานุโรจ” ซีอีโอใหม่ MASTER รับไม้ต่อ “หมอเส” สานภารกิจผู้นำ Specialty Hospital เปิดกลยุทธ์เดินหน้าปรับระบบการจัดการของพันธมิตรเพื่อให้เติบโตไปด้วยกัน พร้อมดันเข้าตลาดหุ้น-หาพันธมิตรเสิรมแกร่งเพิ่มเติม หนุนรายได้ปี 67 โต 20% วางแผนย้ายเทรด SET ในปีนี้

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER (โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช) ได้ประกาศแต่งตั้ง “ดาว-ลภัสรดา เลิศภานุโรจ” เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) รับไม้ต่อจาก “หมอเส-นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล” ซึ่งขึ้นไปดำรงตำแหน่งเป็น Group CEO MASTER 

“ลภัสรดา เลิศภานุโรจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER ได้เล่าย้อนไปก่อนที่จะมาร่วมงานกับ MASTER ว่า มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาและบริหารงานจากหลากหลายธุรกิจในบริษัทชั้นนำของประเทศไทย อีกทั้งเคยเป็นอดีตผู้บริหาร Internal Audit Firm 

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการชุดต่างๆ ของบริษัทชั้นนำที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการบริการ การขาย การตลาดแบบครบถ้วนในทุกระบบ โดยมีประสบการณ์การนำบริษัทเข้า IPO มากกว่า 30 บริษัท 

ส่วนจุดเริ่มต้นที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับ MASTER นั้น เริ่มในปี 2563 โดยได้เข้ามาเป็นหนึ่งใน Sports Team ของ MASTER ในตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดูภาพรวมของโรงพยาบาลทั้งหมด เช่น ระบบการขาย การตลาด ระบบหลังบ้าน รวมถึงการเจรจาธุรกิจต่างๆ พูดได้ว่าดูแลการเติบโตของ MASTER ตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งผลักดันให้ MASTER เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2566 

ทั้งนี้ การได้รับแต่งตั้งเป็น “ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่” ของ MASTER ในครั้งนี้ พร้อมเดินหน้าตาม Mission และ Vision ของ หมอเส-นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล Group CEO MASTER สานต่อนโยบายบริษัทให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำตลาดของบริษัทที่วางไว้ สอดรับกับแนวทางการพัฒนาและก้าวสู่ผู้นำ Specialty Hospital 

โดยแผนกลยุทธ์ยังมุ่งการเติบโตทั้ง Organic ซึ่งสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 416.30 ล้านบาท เติบโต 38.34% จากปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 300.92 ล้านบาท และมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 1,916.76 ล้านบาท เติบโต 29.28% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 1,482.59 ล้านบาท  

และ Inorganic ด้วยการนำกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER พร้อมสร้างผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ มิติ 

“ดาว-ลภัสรดา” หญิงแกร่ง ซีอีโอใหม่ MASTER สานต่อภารกิจ Specialty Hospital

ปัจจุบันบริษัทเข้าลงทุนแล้ว 15 ดีล แบ่งเป็นในปี 2566 จำนวน 10 ดีล และปี 2567 จำนวน 5 ดีล ด้วยเงินลงทุนรวมประมาณ 1,300 ล้านบาท ผ่าน 3 รูปแบบ คือ Cross Border, Cross Selling และ Cross Synergy ประกอบด้วย

Cross Border ได้แก่ บริษัท มีแพลนดี จำกัด ผู้ดำเนินกิจการคลินิกเสริมความงาม WIND Clinic สัดส่วน 40%, บริษัท ทีวายพี เมดิคัล จำกัด ภายใต้ชื่อ “TYP Clinic” สัดส่วน 40% และ คลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “Aurora Clinic” สัดส่วน 40% 

Cross Selling ได้แก่ คลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “Rattinan Medical Center” สัดส่วน 36%, บริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด สัดส่วน 40%, บริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด สัดส่วน 40% 

บริษัท บีอีคิว จำกัด สัดส่วน 35%, บริษัท ซีเอ็มเอ็นเอช 2012 จำกัด ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ สัดส่วน 40%, บริษัท วี เอ็กคลูซีฟ กรุ๊ป จำกัด คลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “V Square Clinic” สัดส่วน 40%

บริษัท มี เซนเตอร์ จำกัด คลินิกดูแลสุขภาพจิต ภายใต้ชื่อ “Me Center Clinic” สัดส่วน 35%, บริษัท กรวินโฮลดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด สัดส่วน 15% และ บริษัท เอส45 เมติคอล กรุ๊ป จำกัด คลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ S45 Clinic สัดส่วน 40% 

Cross Synergy ได้แก่ บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) สัดส่วน 40%, บริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด สัดส่วน 40% และ บริษัท เอสธิลิส โค้ด จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงงานผลิตซิลิโคนเพื่อใช้สำหรับทางการแพทย์ จำนวน 20%

สำหรับพันธมิตรที่บริษัทเข้าไปลงทุนนั้น บริษัทมีการคัดกรองมาอย่างดี ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ มีทุกระดับตั้งแต่ล่าง กลาง และพรีเมียม โดยยังเข้าไปปรับปรุงระบบการจัดการของพันธมิตร รวมทั้งร่วมวางกลยุทธ์ เพื่อให้เป็น High Performance Organization แบบ MASTER และเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งคาดว่า 20% ของพันธมิตรที่บริษัทเข้าไปลงทุนจะสามารถผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้

“ดาว-ลภัสรดา” หญิงแกร่ง ซีอีโอใหม่ MASTER สานต่อภารกิจ Specialty Hospital

“เงินที่ได้จาก IPO แบ่งเป็น 2 ส่วน 1.ขยายธุรกิจของ MASTER และ 2.ต่อยอดเป็น Specialty Hospital อย่าง M&P เราทำดีลจบภายใน 4 เดือน ทำระบบจบภายใน 6 เดือน ตัวเลขการเติบโตจะเห็นหลังจากเราวางกลยุทธ์ร่วมกัน เพราะช่วงแรกเป็นการปรับระบบภายใน 4 เดือน ไม่เกิน 6 เดือน หลังจากนั้นอีก 6 เดือน จะเป็นการทำ Performance ในปีแรกจะเห็นตัวเลขการเติบโตแบบไม่ชัดเจนมาก แต่ในปีถัดไปจะเห็นตัวเลขการเติบโตได้อย่างชัดเจน โดยในไตรมาส 2/2567 เราจะรับรู้กำไรเข้ามาในหลายพันธมิตร และดีลสำคัญจะรับรู้กำไรเต็มๆ ในไตรมาส 3/2567 ซึ่งเมื่อรับรู้กำไรครบ 15 ดีล จะทำให้อัตราการเติบโตขึ้นมาอีก 20%”     

ขณะเดียวกัน ในปี 2567 บริษัทยังเดินหน้าหาพันธมิตรเข้ามาเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งเพิ่มเติม คาดว่าปีนี้จะสามารถปิดดีลได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ภายใต้งบลงทุนที่วางไว้ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งจากการดำเนินการดังกล่าว จะสนับสนุนให้รายได้ปี 2567 เติบโต 20% จากปีก่อน 

นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ครบ 1 ปีแล้วเมื่อเดือน ม.ค.2567 ที่ผ่านมา มีแผนย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปี 2567 หลังจากนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้น MASTER แต่ติดนโยบายการลงทุน ทำให้ไม่สามารถเข้าลงทุนได้