posttoday

NUSA แจ้งมีกระแสเงินสดเพียงพอชำระหนี้ 2,352 ล้าน

13 มีนาคม 2567

NUSA ชี้แจงได้ประมาณการกระแสเงินสดตลอดปี 67 เพียงพอต่อการชำระหนี้ทุกประเภท หลัง ตลท. จี้เปิดแผนบริหารจัดการสภาพคล่อง เหตุพบงบการเงินปี 66 มีเงินสดเพียง 39 ล้านบาท แต่มีหุ้นกู้และหนี้สินที่ครบกำหนดชำระใน 1 ปี รวม 2,352 ล้านบาท

ตามที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยข้อมูลที่ปรากฏในงบการเงินประจำปี 2566 บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA มีเงินสด 39 ล้านบาท และมีหุ้นกู้และหนี้ที่จะครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี 1,185 และ 1,167 ล้านบาท ตามลำดับ รวม 2,352 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ข้อมูลข้างต้นพิจารณาได้ว่าอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสภาพคล่องและความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้และหนี้ต่างๆ ของบริษัท และการดำเนินธุรกิจของบริษัท ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอทราบความคืบหน้า แผนงาน และการดำเนินการเพื่อบริหารจัดการสภาพคล่อง เพื่อชำระหนี้และดอกเบี้ยข้างต้น รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยขอให้ NUSA ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 15 มี.ค.2567

ล่าสุด นายวิษณุ เทพเจริญ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารของ NUSA มีความประสงค์จะขอชี้แจงเบื้องต้นตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ชี้แจงกรณียอดเงินสดในบัญชีของบริษัท เปรียบเทียบกับหนี้สินที่จะครบชำระในระยะเวลา 1 ปี นั้น

บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค.2566 ตามข้อมูลในรายงานงบการเงิน บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์คิดเป็น 0.58% ซึ่งคำนวณจากราคาสินทรัพย์ประเภทที่ดินของบริษัท ในราคาทุน โดยราคาตลาดของที่ดินมีราคาสูงกว่าราคาทุนมาก อาทิ ที่ดินที่เขาใหญ่ หรือ สัตหีบ 

โดยล่าสุด หุ้นกู้ของบริษัท NUSA242A ซึ่งครบกำหนดวันที่ 28 ก.พ.2567 ได้มีการชำระเงินต้นทั้งจำนวนแล้วเสร็จตามกำหนด ทั้งนี้ หุ้นกู้ของบริษัทและบริษัทในเครือ เป็นหุ้นกู้มีหลักประกันเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยสูงกว่า 1.2 เท่า ณ ปัจจุบัน บริษัทมีการประมาณการกระแสเงินสดตลอดปี 2567 ที่เพียงพอต่อกำหนดการชำระหนี้ทุกประเภท

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างการรอเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ได้มีแผนการดําเนินการบริหาร NUSA ตามวาระการเสนอเพิ่มกรรมการใหม่ และปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท 

ทั้งนี้ ทางบริษัทจะได้รายงานความคืบหน้าตามประเด็นความสามารถชําระหนี้ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยประธานคณะกรรมการบริษัทท่านใหม่