posttoday

BDMS ควง BH โชว์กำไรปี 66 รับรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ-ไทยพุ่ง แถมปันผลครึ่งหลัง

22 กุมภาพันธ์ 2567

BDMS อวดกำไรปี 66 โต 14% แตะ 14,375 ล้านบาท เหตุรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ-ไทยพุ่ง แจกปันผลครึ่งปีหลังอีก 0.35 บาท/หุ้น ขึ้น XD 6 มี.ค.67 ด้าน BH กวาดกำไรปี 66 กว่า 7,00 ล้านบาท โต 41.9% จ่ายปันผลอีก 3.15 บาท/หุ้น ขึ้น XD 13 มี.ค.67

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 14,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2565 มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 24,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2565 และรายได้จากการดำเนินงานรวม 102,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2565 

โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของศูนย์การแพทย์แห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence - COE) ประกอบกับการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติ 23% และรายได้ผู้ป่วยชาวไทย 6% จากปี 2565 ทั้งนี้ รายได้ผู้ป่วยชาวไทยที่ไม่เกี่ยวกับ COVID-19 เพิ่มขึ้น 22% ในปี 2566  

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 3,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาส 4/2565 จากการเติบโตของผู้ป่วยไทยและต่างชาติ ประกอบกับการบริหารเงินที่ดี ส่งผลให้รายได้ทางการเงินเพิ่มขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายลดลง และมี EBITDA 6,649 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาส 4/2565

ขณะเดียวกัน มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 26,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส 4/2565 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาล 12% โดยมีการเติบโตที่ดีจากรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติ 18% และรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย 10% จากไตรมาส 4/2565

ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยคาดว่าธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์จะมีการเติบโตต่อเนื่อง จากสังคมผู้สูงอายุ รายได้ประชากรต่อหัวที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัด การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เนื่องจากคนใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้นเพื่ออายุที่ยืนยาวและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการขยายตัวของ Digital Healthcare และประกันสุขภาพในประเทศไทย 

นอกจากนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) ของโลก จากคุณภาพการรักษาพยาบาลที่ดี การมีโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานระดับสากล การบริการที่เป็นเลิศและความคุ้มค่าของราคาค่ารักษาพยาบาล เหตุผลดังกล่าว ทำให้นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสนใจมาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยมากขึ้น

ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2566 และกำไรสะสม ในอัตรา 0.70 บาท/หุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 11,124 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2566 บริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดเดือน ม.ค.- มิ.ย.2566 ในอัตรา 0.35 บาท/หุ้น คงเหลือเป็นเงินปันผลที่เสนอจ่ายเพิ่มอีก 0.35 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินรวม 5,562 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 มี.ค.2567 และจ่ายปันผลวันที่ 22 เม.ย.2567

ด้าน บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2566 มีกำไรสุทธิ 7,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.9% จากปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 4,938 ล้านบาท และมีรายได้รวม 25,575 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 20,908 ล้านบาท เป็นรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 6,497 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากไตรมาส 4/2565 ที่มีรายได้ 5,968 ล้านบาท 

โดยหลักเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มมผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทย 28.9% และ 11.4% ตามลำดับ เป็นผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย คิดเป็นสัดส่วน 33.2% จากทั้งหมด ในขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศ คิดเป็น 66.8% ในปี 2566 เทียบกับ 36.5% และ 63.5% ตามลำดับ ในปี 2565

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,721 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากไตรมาส 4/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 1,546 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% จากไตรมาส 4/2565 ที่มีรายได้รวม 6,068 ล้านบาท เป็นรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 6,497 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากไตรมาส 4/2565 ที่มีรายได้ 5,968 ล้านบาท 

โดยหลักเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทย 11.9% และ 2.9% ตามลำดับ เป็นผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย คิดเป็นสัดส่วน 32.0% จากทั้งหมด ในขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศ คิดเป็น 68.0% ในไตรมาส 4/2566 เทียบกับ 33.8% และ 66.2% ตามลำดับ ในไตรมาส 4/2565

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี2566 ในอัตรา 4.50 บาท/หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,580 ล้านบาท และรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้ว ในอัตรา 1.35 บาท/หุ้น รวมเป็นจำนวนเงิน 1,073 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2566 คงเหลือเป็นเงินปันผลจ่ายสำหรับงวดดำเนินงาน วันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2566 ในอัตรา 3.15 บาท/หุ้น รวมเป็นจำนวนเงิน 2,507 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 13 มี.ค.2567 และจ่ายปันผลวันที่ 10 พ.ค.2567