posttoday

SET แกว่งในกรอบ รอประชุม กนง. แนะ “ตั้งรับ” ชู GULF และ CRC

07 กุมภาพันธ์ 2567

SET แกว่งในกรอบ จับตาประชุม กนง. กลยุทธ์การลงทุน “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด” แนะนำ GULF และ CRC

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ปรับขึ้นโดดเด่น ขณะที่สัญญาณเทคนิคระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ overbought และคาดนักลงทุนในตลาดรอติดตามประเด็นสำคัญ สำหรับการประชุม กนง. ในช่วงบ่าย ทำให้คาด SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีกรอบบนที่แนวต้าน 1,405-1,410 จุด และกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1,387 จุด ใช้เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่าเริ่มเป็นสัญญาณลบ

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET อยู่ในภาวะเปราะบางและการฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด หลังคาดเงินเฟ้อไทยและจีน ม.ค. มีแนวโน้มหดตัว, กนง. จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 7 ก.พ. อีกทั้งดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐ จีน และอียู จะชะลอตัวลง นอกจากนั้นผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ของ บจ. ไทยอาจออกมาอ่อนแอและยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น "ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด" ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้ 

1) นักลงทุนที่กังวลตลาดผันผวนเชิงลบแนะนำลงทุนในหุ้นตั้งรับ ซึ่งคาดจะสามารถชนะตลาดได้ โดยมี Beta ต่ำกว่า 1, ราคาหุ้นปรับตัว YTD ดีกว่า SET เลือก ADVANC AOT BDMS TISCO

2) นักลงทุนระยะสั้น (3-4 เดือน) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพในเทศกาลจ่ายเงินปันผลและขึ้น XD ในช่วง มี.ค.-พ.ค.นี้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2566 (หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว) เกิน 5% เลือก AP BCP KTB ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2567 เกิน 5% เลือก AH AP BCP KTB PTT TTB

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง 

ระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 4/2566 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาด ได้แก่ BJC HMPRO GLOBAL CRC ZEN AU CPF BTG ONEE AWC SIRI 

ส่วนระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ GULF ไตรมาส 3/2566 คาดกำไรโตต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้า IPP (GPD) อีก 1 หน่วย เริ่มดำเนินการเมื่อ ต.ค. และกำไรจาก Jackson Generation เพิ่มขึ้น คาดปี 2566 กำไรปกติโต 32%YoY และโตต่ออีก 28%YoY ในปี 2567 มองราคาหุ้นยัง Laggard โดย PER และ PBV ปี 2567 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

CRC มองราคาหุ้นที่ปรับลง 20%YTD สะท้อนความกังวลผลประกอบการไตรมา 4/2566 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาดไปมากแล้ว โดยไตรมาส 4/2566 เป็นไตรมาสที่กำไรดีสุดของปี (+QoQ, -YoY) อีกทั้งจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มฯ จากโครงการ E-receipt ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ช่วง 1 ม.ค.-15 ก.พ.2567