posttoday

รู้ก่อนซื้อ! PTTEP-TOP ดักทางปันผลเริด? ราคาน้ำมันดันไกลแค่ไหน

29 มกราคม 2567

ราคาน้ำมันกลับมาพีคสุดรอบ 2 เดือน PTTEP บวกเล็กน้อย เหตุไตรมาส 4/66 หน่วง โดนค่าใช้จ่ายพิเศษบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ฉุดกำไรวูบ ฟาก TOP พุ่งแรง มีดีที่ปันผลครึ่งปีหลังเริด ยิลด์พุ่ง 4.4%

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP" เปิดการซื้อขายเช้านี้(29 ม.ค.67) ล่าสุด เวลา 10.39 น. อยู่ที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +0.34% โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 151 บาท และลงต่ำสุด 149 บาท 

     ราคาหุ้น "บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP" อยู่ที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท คิดเป็น +1.88% ราคาขึ้นไปสูงสุด 54.50 บาท และลดลงต่ำสุด 53.75 บาท

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันศุกร์ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย +1% DoD ทำระดับสูงสุดของปี 2567 หรือสูงสุดรอบ 2 เดือน หนุนจากตัวเลข GDP 4Q66 ของสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ขยายตัว +3.3% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด +2%, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน (ปรับลด RRR), ความเสี่ยง Geopolitical Risk เพิ่มขึ้นจากข่าวเรือขนส่งน้ำมัน Marlin Luanda ของอังกฤษ ขนส่ง Naphtha วัตถุดิบปิโตรเคมีของรัสเซียถูกโจมตีช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการโจมตีเรือขนส่งน้ำมันครั้งแรกของกลุ่มฮูตี ทำให้ Risk Premium ของราคาน้ำมันสูงขึ้น

     อีกทั้ง เปิดตลาดเช้านี้ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นต่อ หนุนจากกระแสข่าวว่าฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดนถูกโจมตีด้วยโดรน ทำให้ทหาร 3 นายเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้ Geopolitical Risk เพิ่มขึ้น

     นอกจากนี้ ในช่วงสั้นราคาน้ำมันยังมีปัจจัยช่วยจำกัด Downside จากการประชุม JMMC หารือโควต้าการผลิตน้ำมันในวันที่ 1 ก.พ.67

เก็งกำไร PTTEP

     ฝ่ายฯแนะนำเก็งกำไร "PTTEP" แนวต้านทางเทคนิค 155 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกหลังราคาน้ำมันดิบ WTI ทำระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน ล่าสุดปิดที่ USD78.01/barrel จากปัจจัยบวก ได้แก่ 1.จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง 2. GDP ไตรมาส 4/66 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด 3.สถานการณ์ความไม่สงบในทะเลแดง หลังกลุ่มฮูติโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันส่งผลให้ Supply น้ำมันในตลาดโลกตึงตัว

     โดย PTTEP คาดรายงานงบไตรมาส 4/66 ในวันที่ 30 ม.ค.67 คาดงบไม่เด่นเนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ทรัพย์คาดกำไรสุทธิที่ 1.59 หมื่นล้านบาท ลดลง -12% QoQ แต่เป็นปัจจัยที่ตลาดรับทราบแล้วคาดเห็นการ Buy on Fact หลังรายงานงบ ขณะที่เงินปันผลงวดครึ่งหลังปี66 สูง คาดจ่าย 4.75 บาท/หุ้น Yield 3.2%

สะสม TOP

     นอกจากนี้ หุ้น TOP ได้รับอานิสงส์บวกเช่นเดียวกับ PTTEP เพียงแต่แนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 4/66 คาดที่ 2.9 พันล้านบาท ลดลง 74% QoQ แต่ไม่ได้ Surprise ตลาดเนื่องจากเป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้แล้ว ขณะที่ในไตรมาส 1/67 คาดกำไรฟื้นตัวจาก Stock Gain และคาดเงินปันผลในงวดครึ่งหลังปี66 หุ้นละ 2.35 บาท ให้ Dividend Yield สูงถึง 4.4% แนะนำสะสมหุ้น TOP แนวต้านทางเทคนิค 55 บาท

PTTEP เทรดตามรอบน้ำมัน
     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในภาวะผันผวนจากทั้ง demand และ supply ที่แท้จริง รวมถึงประเด็นบวกและลบต่อราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ซึ่งหากพิจารณาภายใต้ demand และ supply ที่แท้จริง และราคาน้ำมันในปัจจุบันฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองที่คาดทิศทางราคาน้ำมันจะยังทรงตัวได้ในระดับสูงต่อเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล และการจ้ากัด supply ของกลุ่ม OPEC+

    ส่วนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันจะมีเสถียรภาพมากขึ้นอยู่กับdemand ซึ่งแปรผันตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยกำหนดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี66 อยู่ที่ 90 เหรียญฯ/บาร์เรล และระยะยาวตั้งแต่ปี67เป็นต้นไปอยู่ที่ 80 เหรียญฯ/บาร์เรล ภายใต้สมมติฐานดังกล่าวมูลค่าพื้นฐานของ PTTEP อยู่ที่ 180 บาท/หุ้น ยังแนะนำหาจังหวะ trading ตามทิศทางราคาน้ำมัน

     ส่วนค่าการกลั่นนั้น ภาพรวมในปี 2566 กำหนดสมมติฐานกลับสู่ใกล้เคียงระดับปกติ 6-10 เหรียญฯ/บาร์เรล โดยการปรับตัวทยอยเข้าสู่ Demand และ Supply ที่แท้จริง หลังจากเกิดภาวะผิดปกติในปี 2565 ที่ผ่านมา ดังนั้น ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองโรงกลั่นให้เล่นตามการปรับตัวของค่าการกลั่น และช่วงฤดูกาลเช่นเดิม ซึ่งปกติแล้วค่าการกลั่นจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 4
ยาวต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1 ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ก่อนที่จะค่อยๆปรับตัวลงในไตรมาส 2 เล็กน้อย และจะต่้าสุดในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วง low season ภายใต้ไม่มี hurricane ที่รุนแรง

     แต่หากมีการเกิด hurricane ขึ้นมีโอกาสที่จะเห็นค่าการกลั่นดีดตัวขึ้นโดดเด่นได้ในช่วง hurricane ถือเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นได้แต่ในปี 2566 นี้ ค่าการกลั่นในไตรมาส 3 ปรับตัวขึ้นโดดเด่นจากภาวะ supply ที่ตึงตัว ประกอบกับผู้ประกอบการต่างมี inventory อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงส่งผลบวกต่อค่าการกลั่นให้ปรับตัวขึ้นโดดเด่น อย่างไรก็ตาม มุมมองค่าการกลั่นในงวดไตรมาส 4/66 คาดจะยังอยู่ในระดับสูง เพราะจะเป็นการเข้าสู่ฤดูกาลฤดูหนาวอีกครั้ง

     สำหรับ spread ปิโตรเคมี คาดในปี 2566 น่าจะเข้าสู่ภาวะสมดุลระหว่าง demand และ supply มากขึ้น spread ผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มน่าจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในปี 2565 ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี65 ถือเป็นช่วงที่ spread สูงมากจากการกลับมา restocking และค่อยปรับตัวลดลงในช่วง ครึ่งหลังปี65 อีกทั้งคาดในปี 2566 spread ปิโตรเคมีจะถูกดดันจากด้าน supply ใหม่ที่จะทยอยเข้าสู่ตลาด โดยฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักกลุ่มปิโตรเคมีเท่าตลาด