posttoday

ฟันด์โฟลว์ไหลออก-หยุด 3 วันป่วนหุ้นไทยแกว่งแคบ

08 ธันวาคม 2566

ตลาดหุ้นสหรัฐเด้ง บวกเม็ดเงินกองทุน TESG-SSF-RMF หนุนท้ายปี สวนทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลออก - หยุดยาว 3 วันป่วนหุ้นไทยผันผวน โบรกคาดแกว่งกรอบ 1,370 - 1,390 จุด แนะซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงย่อ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 11 จุด (-0.78%) ปิดที่ระดับ 1,378 จุด จากแรงขายหุ้นในกลุ่ม น้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน กลุ่มอิเล็กฯมี Sentiment ลบหลังจีนรายงานยอดนำเข้าสินค้าเดือน พ.ย. พลิกเป็นหดตัว 0.6%yoy

      แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(8 ธ.ค.66)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากตลาด หุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นและเม็ดเงินจากกองทุน TESG SSF RMF ช่วงท้ายปี อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ยังไหลออกและตลาดหยุด long weeken 3 วัน จะกดดันให้ดัชนีผันผวน

ตั้งรับเล่นรีบาวด์

      กราฟ SET ไม่สามารถผ่านเส้น EMA 10 วันขึ้นได้ส่งผลให้ภาพรวมยังคงเป็นแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง นอกจากนี้เครื่องมือ MACD + RSI ทิ้งตัวลงให้สัญญาณลบทั้งคู่ยิ่งเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,375 / 1,370 จุด จึงแนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัว แนวต้าน 1,385 / 1,390 จุด โดย Cut loss หาก SET หลุด 1,365 จุด

     สำหรับหุ้นแนะนำคือ PLANB (ปิด 8.50 ซื้อ/เป้า 10.2 บาท) คาดกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ และโต ถึง 30% ขณะที่คาดว่าโมเมนตัมการเติบโตจะดำเนินต่อไปในปี 2024 ซึ่งเราคาดว่าจะโต 31% จาก UR ที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่าโฆษณา 

      CBG (ปิด 82.25 ซื้อ/เป้า 93.60 บาท) แนวโน้มรายได้และกำไรจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/2566 จากการรับรู้รายได้ผลิตขวดและจัดจำหน่ายเบียร์เข้ามาเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ขณะที่ในปี 2567 จะมีค่าใช้จ่ายค่าลิขสิทธ์ฟุตบอลคาราบาวคัพลดลงจากการแชร์ค่าใช้จ่ายร่วมกับคุณเสถียร

ประเด็นสำคัญวันนี้

      (-) ยอดนำเข้าจีนเดือน พ.ย.พลิกเป็นติดลบสะท้อนดีมานด์สินค้าส่งออกไทยชะลอตัว: วานนี้จีนรายงานยอดส่งออกเดือน พ.ย. พลิกเป็นขยายตัว 0.5%yoy จากเดือน ต.ค. ที่หดตัว 6.4%yoy นับเป็นการขยายตัว yoy ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตามยอดนำเข้ากลับหดตัว 0.6%yoy จากที่เพิ่มขึ้น 3%yoy ใน เดือน ต.ค. เรามองเป็นลบกับประเด็นนี้ โดยเฉพาะยอดนำเข้าที่หดตัวสะท้อนดีมานด์สินค้านำเข้าจากไทยลดลงเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มส่งออกโดยเฉพาะ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

      (+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลข Nonfarm Payrolls ชี้วัดความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐ: Nonfarm Payrolls หรือการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นอีก หนึ่งตัวเลขที่เฟดให้ความสำคัญ หากตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวลดลงหรือต่ำกว่า คาดจะเพิ่มโอกาสให้เฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปมากยิ่งขึ้นเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน โดย Consensus คาดจำนวนการจ้างงานที่ 1.8 แสนคน เพิ่มขึ้นจาก 1.5 แสนคนในเดือน ต.ค. และ คาดอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.9%

      (+/-) สัปดาห์หน้า สัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกโฟกัสหลัก อยู่ที่ FED Meeting: โดย FED Meeting จะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. ตามด้วย BoE และ ECB Meeting จะมีขึ้นในวันเดียวกันคือ 14 ธ.ค. เราคงมุมมองเดิมคาด FED, BoE และ ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.5%, 5.25% และ 4.5% ตามลำดับ แต่สิ่งที่จะต้องจับตาและอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดจะ อยู่ที่ ถ้อยแถลงหลังการประชุมของประธานเฟด, Dot Plot และ คาดการณ์ GDP ในปีหน้าของสหรัฐ