posttoday

ชำแหละ “สมนึก กยาวัฒนกิจ” นั่งบอร์ดบริษัทโยง 40 ตู้ หมูเถื่อน DSI เร่งขยายผล

24 พฤศจิกายน 2566

ส่องธุรกิจ “สมนึก กยาวัฒนกิจ” หลัง DSI ขยายผลคดี “หมูเถื่อน” ส่ง ป.ป.ช.ฟันขบวนการเอี่ยวหมูเถื่อน 161 ตู้ พบ 1 ใน 10 บริษัท มี “ขรก.การเมือง-นายทุน-อดีต ขรก.” ร่วมกว่า 10 ราย ส่วนอีก 9 บริษัท แยกมาดำเนินการต่อ เร่งสอบ 40 ตู้ นำเข้าซากเนื้อหมูปี 64-65 เป็นบริษัทที่สมนึกนั่งบอร์ด

วันนี้ (24 พ.ย.2566) พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งได้รับมอบหมายจากพันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมดีเอสไอ ได้แถลงความคืบหน้าในการดำเนินการในคดีพิเศษ ที่ 59/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมายว่า การดำเนินงานในช่วง 5 เดือน หลังจากที่ดีเอสไอได้รับมาเป็นคดีพิเศษ 

ซึ่งล่าสุด วันนี้ได้สรุปสำนวนในคดีนี้เสร็จสิ้น และส่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการสอบสวนขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้ ปริมาณ 4,025 ตัน โดยมีผู้เสียหายราว 4.5 ล้านกิโลกรัม

โดยคดีนี้มีความน่าเชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการองค์กรอาชญากรรม ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตร โดยองค์กรอาชญากรรม มีผู้เกี่ยวข้อง 3 กลุ่ม นายทุน ข้าราชการการเมือง และอดีตข้าราชการ 

นอกจากนี้ การนำเข้า “หมูเถื่อน” ที่เข้ามาแล้ว 2,385 ตู้ ตั้งแต่ในปี 2564 ดีเอสไอจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดผู้อยู่ในขบวนการองค์กรอาชญากรรมรูปแบบนี้ให้หมดไปจากประเทศไทย ซึ่งทางรัฐบาลได้เร่งรัฐให้ปราบปรามกระบวนการหมูเถื่อน โดยทางดีเอสไอจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้นภายใน 3 เดือนนับจากนี้ไป และสัปดาห์หน้าน่าจะเห็นเรื่องความชัดเจนขององค์กรฯ ที่ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจำนวน 161 ตู้  

“วันนี้ความคืบหน้าคดีหมูเถื่อน คดีที่ 59/2566 ได้สอบสวนเสร็จสิ้น และได้ส่งให้ ป.ป.ช. แล้ว 1 บริษัท จากทั้งหมด 10 บริษัท โดยมีข้าราชการการเมือง กลุ่มนายทุนที่เกี่ยวข้องประมาณ 10 คนขึ้นไป พร้อมกันนี้ ดีเอสไอได้แยกอีก 9 บริษัท ออกเป็น 9 คดี ซึ่ง 9 บริษัทนี้ การสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ซึ่งดีเอสไอจะดำเนินการต่อไป แต่หากพบภายหลังว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการส่งต่อ ป.ป.ช. โดยทั้ง 10 บริษัทพบว่าเป็นลักษณะต่างคนต่างทำ”

ส่วนความคืบหน้าการนำเข้าหมูเถื่อนอีก 2,385 ตู้ ปริมาณ 59,625 ตัน ทางดีเอสไอจะดำเนินการสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดกับองค์กรอาชญากรรมเหล่านี้ที่มีความกระทบต่อด้านอาหารและเกษตร โดยจะดำเนินการต่อไป ภายหลังจากที่ส่งสำนวนคดีที่ 59/2566 ให้กับ ป.ป.ช. ในวันนี้แล้ว 

พันตำรวจตรีณฐพล ยังตอบคำถามสื่อถึงชื่อการดำเนินคดีกับ “นายสมนึก กยาวัฒนกิจ” ผู้ต้องหาในการนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้ ว่า ณ ขณะนี้ ทางดีเอสไอ ได้มีการแจ้งข้อหาในมาตรา 243/244 ในการนำเข้าชิ้นส่วนสุกร โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนรายละเอียดการเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งเรายังไม่ได้รับรายงานมา เพียงแต่ทราบว่าเบื้องต้น “นายสมนึก กยาวัฒนกิจ” เป็นกรรมการของบริษัทที่นำเข้า โดยพบว่าใน 161 ตู้ มี 1 ตู้ เป็นของบริษัทนี้

อย่างไรก็ดี ดีเอสไอ อยู่ระหว่างขยายการสอบสวนอีก 40 ตู้ของบริษัทนี้ที่นำเข้ามาในช่วงปี 2564-2565 ส่วนอีก 2,385 ตู้ จะเกี่ยวข้องกับนายสมนึกด้วยหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายสมนึก เพิ่งเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทแห่งนี้ เมื่อปลายปี 2565 

“รายของ นายสมนึก กยาวัฒนกิจ ทางคณะกรรมการสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ เนื่องจากเขาอยู่ในฐานะที่เป็นกรรมการของบริษัทที่นำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งก็ขึ้นกับว่านายสมนึก จะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร อย่างไรก็ตามในคดีนายสมนึก ยังมีกรรมการที่ร่วมในบริษัทนี้รวมด้วย 2 คน” 

เปิดธุรกิจ “สมนึก กยาวัฒนกิจ” 

“สมนึก กยาวัฒนกิจ” เข้าไปเกี่ยวพันกับคดีนำเข้าหมูเถื่อน เนื่องจากเป็นกรรมการ บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด ในจังหวัดนครปฐม ที่ดีเอสไอตรวจสอบพบว่ามีการสั่งนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาตั้งแต่ปี 2564 จำนวนมากกว่า 2,385 ตู้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผ่านระบบ Creden Data พบว่า บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2556 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์ ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งทำการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ปศุสัตว์ จำหน่ายผลผลิตแปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จรูป

ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบข้อมูลการถือหุ้นของ “สมนึก กยาวัฒนกิจ” พบว่า มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใน 16 บริษัท ประกอบด้วย

1. บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TH โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งระเทศไทย (SET) ประกอบธุรกิจ เพื่อการลงทุน โดย “สมนึก กยาวัฒนกิจ” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ลำดับที่ 1 ถือหุ้น จำนวน 235,376,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 23.58% และดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัท 

2. บริษัท แอดวานซ์ ยีเอส จำกัด ประกอบธุรกิจให้เช่า

3. บริษัท เดอะ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด ประกอบธุรกิจ การให้เช่า การขาย การซื้อ และการดำเนินงานด้านอสังหริมทรัพย์

4. บริษัท บางกอกรัตนโกสินทร์การพิมพ์ จำกัด ประกอบธุรกิจ การขายส่งหนังสือหนังสือพิมพ์และเครื่องเขียน

5. บริษัท เดอะ ดรากอน จำกัด ประกอบธุรกิจ การบริการจัดงานแสดงสินค้า

6. บริษัท อิตัลสยามมอเตอร์เซลล์ จำกัด ประกอบธุรกิจ ประกอบการขายอุปกรณ์ประกอบรถยนต์ซื้อขายหลักทรัพย์

7. บริษัท ที.ซี. เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิส จำกัด ประกอบธุรกิจ บริการจัดงานแสดงสินค้า

8. บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด ประกอบธุรกิจ ให้บริการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นแบบแฟคตอริ่ง การให้กู้และการให้บริการสินเชื่อลิสซิ่ง

9. บริษัทบริหารสินทรัพย์ ตงฮั้ว จำกัด ประกอบธุรกิจ การให้เงินทุนนอกเหนือจากการให้กู้ยืม

10. บริษัท ตงฮั้ว แอสเซท จำกัด ประกอบธุรกิจ ให้บริการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นแบบแฟคตอริ่ง การให้กู้และการให้บริการสินเชื่อลิสซิ่ง

11. บริษัท เอเจอร์นี่ย์ ประกอบธุรกิจ ร้านขายปลีกผลิตภัณฑ์ขนมอบ

12. บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด ประกอบธุรกิจ โฆษณา หนังสือพิมพ์

13. บริษัท สาคร และบุตร จำกัด ประกอบธุรกิจ กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก

14. บริษัท ฟายน์ 22 พร็อพเพอร์ตี้ส์ ประกอบธุรกิจ ค้าอสังหาริมทรัพย์

15. บริษัท อาณธร จำกัด ประกอบธุรกิจ ให้เช่ายานพาหนะ

16. บริษัท ที.เอส.ปาล์ม ออยล์ ประกอบธุรกิจ จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ สถานะร้าง

อนึ่ง เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2566 นายสมนึก กยาวัฒนกิจ เป็น 1 ใน 32 รายชื่อ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีพัวผันการสร้างราคาหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ระหว่างเดือน ก.ค.-พ.ย.2565

ข่าวล่าสุด

บวท. ยกระดับความพร้อมรับปีใหม่ 2569 คาดเที่ยวบินพุ่ง 2.7 หมื่นเที่ยว