posttoday

หุ้นหมูยิ้ม ราคาหน้าฟาร์มขยับอีก 4 บาท หนุน Q4/66 ทรงสวย

22 พฤศจิกายน 2566

โบรกสแกนหุ้นรับอานิสงส์ราคาหมูหน้าฟาร์ม อัพขึ้นอีก 4 บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายเฉลี่ย 68-72 บาทต่อกิโลกรัม ชี้ยืนราคาสูงได้ต่อหนุนผลงานไตรมาส 4/66 กลุ่มฟาร์มสัตว์ฟื้น

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น CPF ปิดการซื้อขายในช่วงเช้านี้(22 พ.ย.66) อยู่ที่ 18.90 บาท ลดลง 0.10 บาท คิดเป็น -0.53%

หุ้น BTG อยู่ที่ 22.10 บาท ลดลง 0.50 บาท คิดเป็น -2.21%

หุ้น TFG อยู่ที่ 3.26 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

หุ้น GFPT อยู่ที่ 10.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ตามที่มีข่าวว่าทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศปรับราคาหมูหน้าฟาร์มใหม่ กิโลกรัมละ 4 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.66 ที่ผ่านมา จากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 รอบ รวม 6 บาท โดยราคาทุกพื้นที่อยู่ในช่วงเร่งปรับฐานให้ราคาวิ่งเข้าสู่ต้นทุนเพื่อลดความสูญเสียให้กับผู้เลี้ยงทั้งระบบ 

     ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์มองประเด็นดังกล่าวจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มฟาร์มสัตว์บก อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG, บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ที่จะได้ประโยชน์จากราคาขายเฉลี่ยที่จะปรับขึ้นตามราคาตลาด 

     ขณะที่ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ยังต้องติดตามราคาไก่ที่มีโอกาสปรับขึ้นตามทิศทางราคาหมูเนื่องจากเป็นสินค้าทดแทน 

     โดยราคาที่ปรับขึ้นมาทำให้ราคาหมูในตลาดปัจจุบันซื้อขายที่ราคาเฉลี่ย 68-72 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว ปรับขึ้นเหนือระดับค่าเฉลี่ยในไตรมาส 3/66 ที่ 62 บาทต่อกิโลกรัม

     อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/66 ของกลุ่มฟาร์มสัตว์หากราคาหมูยังสามารถทรงตัวที่ราคาปัจจุบันหรือปรับขึ้นต่อ มีโอกาสที่ผลประกอบการของกลุ่มฟาร์มสัตว์จะฟื้นขึ้น QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่ฟื้นตัว และจะรับรู้ผลของราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงที่ปรับลดลงได้มากขึ้น

     สำหรับ หุ้น CPF แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/66 คาดยังรับรู้ขาดทุนเพราะราคาขายเฉลี่ยหมูในไทยปัจจุบันยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง แต่คาดจะขาดทุนลดลง QoQ จากการรับรู้ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และส่วนแบ่งผลประกอบการจาก Hylife ที่ดีขึ้น 

     ประเมินแนวโน้มราคาหมูจะฟื้นตัวในปี 2567 จาก Supply ที่ถูกทำลาย และเกษตรรายย่อยต้องออกจากตลาด หนุนผลประกอบการให้กลับพลิกมามากำไร อีกทั้ง CPF ลดทุนด้วยกันตัดจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนสัดส่วน 2.3% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทำให้ EPS ปี66-67 ถูกปรับขึ้นเป็น -1.28 บาท และ 0.72 บาท ตามลำดับ แต่เพื่อให้อนุรักษ์นิยมเราปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงทำให้ยังคงราคาเป้าหมายตามเดิมที่ 24 บาท คงคำแนะนำซื้อสำหรับการลงทุนระยะยาวเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของผลประกอบการในปี 67

     หุ้น BTG แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/66 คาดยังมีผลขาดทุน แต่จะเห็นการฟื้นตัวขึ้น QoQ ได้ เนื่องจากฝ่ายฯคาดหวังการฟื้นตัวของราคาขายเฉลี่ยหมูในประเทศ และรับรู้ราคาต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลงต่อ โดยปรับลดประมาณการปี66 ลงเป็นขาดทุนปกติที่ 1,083 ล้านบาท จากเดิมคาดขาดทุนที่ 148 ล้านบาท จากผลกระทบของสถานการณ์หมูเถื่อนที่ยืดเยื้อกว่าคาด และงบไตรมาส 3/66 ที่อ่อนแอกว่าคาด ฝ่ายฯปรับราคาเป้าหมายลง และปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 67 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 25 บาท คงคำแนะนำ TRADING

     และ หุ้น GFPT รายงานกำไรปกติไตรมาส 3/66 ที่ 318 ลบ. (-4.8% QoQ, -57% YoY) ใกล้เคียงคาด โดยชะลอลง YoY จากฐานสูง ขณะที่ QoQ โดนกดดันจากปริมาณขายส่งออกที่ลดลง แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 เบื้องต้นคาดฟื้นตัวได้ QoQ จากปริมาณการส่งออกที่คาดจะฟื้นตัว และจะรับรู้ผลของราคาต้นทุนที่ปรับลดลงได้มากขึ้น ขณะที่กำไรเทียบ YoY คาดยังชะลอลง

     ฝ่ายฯเห็นสัญญานบวกจากราคาต้นทุนวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปรับลดลงต่อหลังผ่านพ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวในช่วงไตรมาส 3/66 โดยราคาในเดือน ต.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 10.5 บาท/กก. (-4.5% MoM) โดยคงราคาเหมาะสมที่ 11.50 บาท คงคำแนะนำ TRADING ติดตามสถานการณ์ราคาไก่หากปรับตัวขึ้น หรือราคาต้นทุนปรับลงต่อจะเป็นจังหวะเข้าเก็งกำไร