LPN แจ้งกำไร Q3/66 ลดลง 55.94% รายได้อสังหาฯวูบ

     นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 103.92 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 235.84 ล้านบาท งวด 9 เดือน ปี 66 กำไรสุทธิ 336.05 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 574.61 ล้านบาท

     ในไตรมาส 3/66 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท ที่ 131.92 ล้านบาท ลดลง 55.94% จากงวดเดียวกันปี 65 จากรายได้อสังหาลดลง ส่วนงวด 9 เดือนปี 66 กำไร 238.56 ล้านบาท ลดลง 41.52% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลง 62.50% จากงวดเดียวกันปี 65 และลดลง 45.38% ใน 9 เดือนที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันทั้งไตรมาส 3/66 และ งวด 9 เดือน 2566 บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้น 1.70% และ 1.41% ตามลำดับ

     ขณะที่กลุ่มธุรกิจให้เช่า และกลุ่มธุรกิจบริหาร มีรายได้ในไตรมาส 3/66 เพิ่มขึ้น 7.01% และ 29.79% ตามลำดับ เกิดจากความต้องการที่พักอาศัยภายหลังสถานการณ์โควิด-19 และการขยายธุรกิจเพิ่มเติมของธุรกิจบริหาร

     สำหรับค่าใช้จ่ายขาย และบริหารในไตรมาส 3/66 ลดลงจาก 523.80 ล้านบาท เป็น 292.15 ล้านบาท หรือลดลง 44.22 % งวด 9 เดือน 2566 ลดลง 19.58% เกิดจากค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงตามยอดรายได้ที่ลดลง ส่วนหมวดค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 7.74% โดยงวด 9 เดือน 2566 เพิ่มขึ้น 11.05% ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงทำให้ในไตรมาส 3/66 บริษัทมีผลกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทลดลง 55.94%

     ขณะที่งวด 9 เดือน 2566 ลดลง 41.52% โดยคาดว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากโครงการแล้วเสร็จในปี 2566 ทั้งโครงการอาคารชุดพักอาศัย และบ้านพักอาศัย

     ขณะที่ ยอดขายและยอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 80% จากโครงการอาคารชุดพักอาศัย และ 20% จากโครงการบ้านพักอาศัย โดยในไตรมาส 3/66 บริษัทมีการเปิดตัว 5 โครงการใหม่ ส่วนงวด 9 เดือน 2566 เปิดตัว 10 โครงการ มูลค่ารวม 10,500 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัย 1 โครงการ เป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุด โดยรุกย่านนิคมอมตะชลบุรี เจาะกลุ่มนักลงทุน และผู้อยู่อาศัยที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพได้รับการตอบรับจากผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก ได้แก่ เอิร์น อมตะ บาย แอล.พี.เอ็น

     และเป็นบ้านพักอาศัย 4 โครงการ ได้แก่ 1) เฮ้าส์ 24 เวสต์เกต 2) เฮ้าส์ 24 คูคตสเตชั่น 3) เฮ้าส์ 24 แก้วอินทร์ และ 4) เฮ้าส์ 24 บางใหญ่ มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท ทำให้ไตรมาส 4/2566 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผนเพิ่มอีกจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) อาคารชุดพักอาศัย 1 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 900 ล้านบาท และ 2) โครงการบ้านพักอาศัย 1 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทจะมียอดขาย และรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     อย่างไรก็ตาม ยอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 2,800 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2566 และ 2567