posttoday

'หุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น' ร่วงตามราคาน้ำมันโลก จังหวะย่อลึกน่าสะสม?

05 ตุลาคม 2566

PTTEP - TOP - SPRC ร่วงแรงตามราคาน้ำมันดิบโลก หลัง Demand หาย Supply คงเดิม ฟาก เอเซียพลัสมองจังหวะย่อลึกน่าสะสม พร้อมสแกนหุ้นใหญ่ราคา Laggard น่าสอย

ราคาหุ้น PTTEP วันนี้(5 ตุลาคม 2566) ณ เวลา 10.10 น. อยู่ที่ 160 บาท ลดลง 5.50 บาท คิดเป็น -3.32%

ราคาหุ้น PTT อยู่ที่  31.75บาท ลดลง 0.50 บาท คิดเป็น -1.55%

ราคาหุ้น TOP อยู่ที่ 46.50 บาท ลดลง 1.25 บาท คิดเป็น -2.62%

ราคาหุ้น SPRC อยู่ที่ 8.30 บาท ลดลง 0.30 บาท คิดเป็น -3.49%

 

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent / WTI ปรับตัวลง 5-6% อยู่ที่ระดับ 84-85 เหรียญฯ โดยมีปัจจัยกดดันจากฝั่ง Demand หลังข้อมูลเชิงเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 50.1 จุด ในเดือน ก.ย.66 ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 50.2 จุด และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 50.5 จุดในเดือน ส.ค.66 

     หากดัชนี PMI หลุดระดับ 50 จุด จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการของสหรัฐ บวกกับสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล ยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึง Demand น้ำมันดิบที่ซบเซา

\'หุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น\' ร่วงตามราคาน้ำมันโลก จังหวะย่อลึกน่าสะสม?

     ขณะที่หากพิจารณาฝั่ง Supply ราคาน้ำมันดิบยังคงเดิม หลังวานนี้มีการประชุมกลุ่ม OPEC+ ซึ่งมีมติคงนโยบายการผลิตตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือน มิ.ย.66 ส่งผลให้ OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567 ซึ่งรายละเอียดแต่ละประเทศ อยู่ในตารางด้านล่าง

\'หุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น\' ร่วงตามราคาน้ำมันโลก จังหวะย่อลึกน่าสะสม?

     ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4 มีโอกาสผันผวน หลังยังอยู่ในภาวะผันผวนจากทั้ง demand และ supply ที่แท้จริง รวมถึงประเด็นบวกและลบต่อราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ซึ่งหากพิจารณาภายใต้ demand และ supply ที่แท้จริง และราคาน้ำมันในปัจจุบัน ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองที่คาดทิศทางราคาน้ำมันจะยังทรงตัวได้ในระดับสูงได้ โดยสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2566 อยู่ที่ 90 เหรียญฯ/บาร์เรล และ ระยะยาวตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปอยู่ที่ 80 เหรียญฯ/บาร์เรล

ยิ่งย่อ ยิ่งน่าสะสม

     อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับลงช่วงสั้น หลัง Demand หาย และการประชุม OPEC+ ยังคงปรับลดกำลังการผลิตเท่าเดิม จนถึงสิ้นปี 2566 อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯคาดราคาน้ำมันดิบมีโอกาสทรงตัวในระดับ 75-80 เหรียญฯ/บาร์เรล จาก Demand ที่เร่งตัวขึ้นในช่วงสิ้นปี ดังนั้นหากราคาหุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่น ย่อตัวลงมาถึงแนวรับจึงแนะนำทยอยสะสม เพื่อหวังผลกำไรกลาง-ยาวได้ ชอบ PTTEP , TOP , SPRC

หุ้นใหญ่ Laggard

     ในช่วงปรับสมดุลของ Bond Yield ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนเช่นกัน และน่าจะเป็นการ Trading โยกย้ายเม็ดเงินจากกลุ่มหนึ่งไปอีกกลุ่มหนึ้ง ฝ่ายวิจัยฯ จึงแนะนำสลับกลุ่มซื้อขายในช่วงนี้ โดยลดน้ำหนักกลุ่มท่องเที่ยวและน้ำมัน ในพอร์ต แล้วเพิ่มหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ราคาหุ้นยัง Laggard อาทิ กลุ่ม โรงไฟฟ้า, ค้าปลีก, อสังหาฯ, การเงิน, ICT เข้ามาแทน โดยฝ่ายวิจัยฯ ชื่นชอบ EA SCGP BGRIM LH TIDLOR HMPRO GULF CPN ADVANC เป็นต้น 

\'หุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น\' ร่วงตามราคาน้ำมันโลก จังหวะย่อลึกน่าสะสม?

 

พลังงาน-โรงกลั่นวูบ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาน้ำมันทรุดตัวลงเฉลี่ย -5% จากความกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่จะทำให้อุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลง ประกอบกับแนวทางการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียและรัสเซียที่ยังไม่ต่างไปจากเดิม 

     ขณะที่รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯของ EIA ปรับตัวลดลง 2.22 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 6.48 ล้านบาร์เรล สูงกว่าคาดที่เพิ่มขึ้น 0.16 ล้านบาร์เรล ถือเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น เช่น PTTEP, TOP, SPRC

 

เคาะกราฟ PTTEP-PTT

     ฝ่ายกลยุทธ์ บล.ไอร่า(ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้น PTTEP มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวันราคารีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ภายหลังปรับตัวลงแรงหลุดกรอบแนวโน้มหลักขาขึ้นพร้อมทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นเช่นกัน ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ RSI ปรับตัวลงแรงตามทิศทางของราคา คาดราคามีโอกาสอ่อนตัวลงได้ต่อ มองเป็นโอกาสขายล็อคกำไร เพื่อจำกัดความเสี่ยง แนะนำ Lock profit มองแนวรับ 160.50 / 157 บาท แนวต้าน 167.50 / 170.50 บาท

     หุ้น PTT ภาพรายวันราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มหลัก โดยเป็นการปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นอีกครั้ง ก่อนพยายามฟื้นตัวขึ้นระหว่างวัน ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ RSI อ่อนกำลังต่อเนื่อง ให้สัญญาณขาย คาดราคามีแนวโน้มอ่อนกำลังลงได้ต่อ ระยะสั้นแนะหลีกเลี่ยงไปก่อน แนวรับ 31 / 29.50 บาท แนวต้าน 32.50 / 34.25 บาท