posttoday

MASTER ผนึก KIN Corp. เสริม Synergy ลดต้นทุน 10% เล็งดันเข้าตลาดหุ้น

14 กันยายน 2566

MASTER ร่วมทุน KIN Corp. ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณาออฟไลน์และออนไลน์ ซื้อหุ้นเพิ่มทุน เข้าถือหุ้น 40% ปูพรมขยายช่องทางการตลาด เกิด Synergy ลดต้นทุนกว่า 10% จ่อดันเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้าน KIN Corp. ขยายฐานลูกค้าสู่ Health Care วางเป้ารายได้ปี 67 โต 30%

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเข้าลงทุนใน บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 400,000 หุ้น หรือคิดเป็น 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 400 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 160 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการเข้าลงทุนแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2567 

MASTER ผนึก KIN Corp. เสริม Synergy ลดต้นทุน 10% เล็งดันเข้าตลาดหุ้น

สำหรับการเข้าลงทุนในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของ MASTER เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงทีมผู้บริหาร นำโดย นายภาคิน วณิชภิรมย์ มีแผนธุรกิจอย่างชัดเจน โดยจะเกิด Synergy ระหว่างกันทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับ MASTER สามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 10% และยังสามารถสนับสนุนพันธมิตรของ MASTER ได้ด้วย ขณะที่ KIN Corp. ได้ขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ตลาดกลุ่ม Health Care จากเดิมทำการตลาดกลุ่มลูกค้า Real Estate เป็นหลัก และมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีแผนผลักดัน KIN Corp. เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป 

“การร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ทำให้สามารถสร้างประโยชน์ทางธุรกิจให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต พร้อมเปิดโอกาสการเติบโตในตลาดวงการศัลยกรรม ด้วยศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ จากการที่ KIN Corp. มีเครือข่ายและทำเลที่ตั้งโฆษณาครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ไปจนถึงต่างจังหวัดทั่วไทย ถือเป็นแต้มต่อทางธุรกิจที่สำคัญ” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าถือหุ้น KIN Corp. เสร็จสมบูรณ์ MASTER พร้อมให้การสนับสนุน KIN Corp. ในทุกๆ ด้าน โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้และกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น KIN Corp. เข้าเต็มปีในปี 2567 เป็นปีแรก    

MASTER ผนึก KIN Corp. เสริม Synergy ลดต้นทุน 10% เล็งดันเข้าตลาดหุ้น

ขณะเดียวกัน แนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER ยังคงเน้นการเติบโตทั้งจากการเติบโตภายใน (Organic) และการเติบโตจากภายนอก (Inorganic) ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ โดยวาง 3 หลักเกณฑ์ ในการเข้าพิจารณาลงทุนกับพาร์ตเนอร์ 

ประกอบด้วย 1. ซื้อกิจการหรือธุรกิจที่มีเจ้าของเดิมยังบริหารต่อและต้องการเติบโตไปด้วยกัน 2. เป็นกิจการหรือธุรกิจท้องถิ่น มีชื่อเสียง และความสัมพันธ์ที่ดีต่อพื้นที่นั้นๆ และ 3. มีการทำงานร่วมกัน (Synergy) ระหว่างธุรกิจกับ MASTER  

โดยช่วงที่เหลือของปี 2566 ของ MASTER คาดว่าจะสามารถปิดดีลร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 3 ราย เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Health Care สัดส่วนการถือหุ้นรายละประมาณ 40% ซึ่งจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน หลังจากตั้งแต่ต้นปี 2566 บริษัทเข้าไปลงทุนไปแล้ว 4 ราย ได้แก่ 1. คลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “WIND Clinic” ถือหุ้นสัดส่วน 40% 2. Rattinan Medical Center ถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 36% 3. บริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40% และ 4. KIN Corp. ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40% 

นายภาคิน วณิชภิรมย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) กล่าวว่า การเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ MASTER เนื่องจาก MASTER มีจุดแข็งเรื่องการพัฒนาคนในองค์กร ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับ KIN Corp. เพราะแนวทางการดึงศักยภาพของคนในองค์กร นำมาใช้ในเรื่องการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงความเข้าใจในเรื่องการพัฒนาคนในองค์กร เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มจากทีม MASTER 

ทั้งนี้ จากการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ MASTER ในครั้งนี้ ทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดเข้าไปในกลุ่ม Medical และกลุ่ม Health Care ที่มีความต้องการผลิตสื่อครบวงจร ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือกลุ่ม Out of Home Media จากเดิมที่บริษัทมีฐานลูกค้าหลักในกลุ่ม Real Estate ซึ่งบริหารโครงการอยู่ประมาณ 250 โครงการ แบ่งเป็นกลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท

MASTER ผนึก KIN Corp. เสริม Synergy ลดต้นทุน 10% เล็งดันเข้าตลาดหุ้น

“ในการเป็นพันธมิตรครั้งนี้ เรามองว่าจะทำยังไงที่จะลดต้นทุนให้กับ MASTER และบริษัทเองมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2567 จะเติบโตประมาณ 30% จากในช่วง 4 ปี (2562-2565) รายได้ของบริษัทเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากกลุ่ม Real Estate ประมาณ 85% และ กลุ่ม Medical / กลุ่ม Health Care ประมาณ 15% อีกทั้งบริษัทยังต้องการขยายฐานลูกค้าไปสู่กับอุปโภคบริโภค และแฟชั่น ในระยะถัดไป” นายภาคิน กล่าว 

นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เนื่องจากโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ลูกค้าต่างมองหาวิธีที่จะทำให้แบรนด์ของตนเองโดดเด่นและดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เช่น การลงทุนในการโฆษณา การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ หรือการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เป้าหมายสูงสุด คือ การเพิ่มการมองเห็นและเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากขึ้น

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68