posttoday

เปิดอาณาจักร “คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์” ในวันที่หุ้นกู้ถูกจับตา!

23 สิงหาคม 2566

ส่องอาณาจักร “คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์” กับวันที่ทุกสายตาจับจ้องมาที่หุ้นกู้ CGD หลังขอยืดเวลาไถ่ถอน-แบ่งจ่ายเงินต้นก่อน 30% แต่ไม่ใช่ครั้งแรก! พาย้อนไทม์ไลน์หลังกลายเป็นหุ้นกู้ปรับโครงสร้างหนี้ เหตุเจอพิษโควิด-19 ทำ “โฟร์ ซีซั่น ไพรเวท เรสซิเด้นท์” รายได้ผิดแผน

บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจการลงทุนโดยถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การบริหารงานของ “เบน เตชะอุบล” ทายาทคนที่ 3 ของ “สดาวุธ เตชะอุบล” หรือเสี่ยไมค์ 

โดย “เบน เตชะอุบล” เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ CGD ถือหุ้น 1,897,626,424 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.96% และดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ ของ CGD

ทั้งนี้ CGD เป็นผู้พัฒนาโครงการเจ้าพระยา เอสเตท (Chao Phraya Estate) โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ระดับเมกะโปรเจกต์ริมแม่น้ำ มูลค่าโครงการรวมกว่า 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Private Residences Bangkok) โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Hotel Bangkok) ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ (Capella Bangkok) 

อย่างไรก็ตาม CGD ได้ขายโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Hotel Bangkok) ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ (Capella Bangkok) ให้กับ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND บริษัทในเครือ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH ภายใต้การบริหารงานของ “ทอมมี่ เตชะอุบล” ทายาทคนสุดท้องของ “สดาวุธ เตชะอุบล” ไปแล้ว ทำให้ปัจจุบัน BEYOND ถือหุ้น 2 โรงแรมดังกล่าว ในสัดส่วน 100%

รู้จักโครงการในมือ CGD
ดังนั้น ขณะนี้ CGD เป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Private Residences Bangkok) เท่านั้น และกำลังเดินหน้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่แห่งใหม่ บนถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ในย่านพระราม 3 ประกอบด้วย โครงการโรงเรียนนานาชาติพระราม 3 และโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 14,200 ล้านบาท

โดยโครงการโรงเรียนนานาชาติพระราม 3 ส่วนหนึ่งของการพัฒนามิกซ์ยูสที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 23 ไร่บนถนนวงแหวนอุตสาหกรรม โดยใช้หลักสูตรระบบโรงเรียนอเมริกา และ International Baccalaureate Diploma (IB) และภาษาจีนกลาง สามารถรับนักเรียนได้ราว 1,700 คน ได้เริ่มก่อสร้างในเดือน พ.ค.2565 และคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดภาคการศึกษาได้ในเดือน ส.ค.2568

ขณะที่โครงการที่พักอาศัยพระราม 3 จำนวน 315 ห้อง บนตึกสูงกว่า 50 ชั้น ที่พักอาศัย 1 ห้องนอน ถึง 4 ห้องนอน ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับครอบครัวที่ต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนที่อยู่ติดกัน (นักเรียน 1,700 คน) โครงการจะมีสิ่งอํานวยความสะดวกที่เป็นมิตรกับครอบครัวมากมาย เช่น สวนสาธารณะส่วนตัวขนาดใหญ่ ทางเดิน ซึ่งมีสวนและร้านกาแฟที่เชื่อมต่อกับโรงเรียน ดาดฟ้าสิ่งอํานวยความสะดวกขนาด 3,500 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำหลายสระและพื้นที่สำหรับเด็ก รวมถึง Sky Lounge บนชั้น 49 ที่มองเห็นแม่น้ําเจ้าพระยา ขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนการรอการอนุมัติ EIA เพื่อจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.2567

ในด้านงบการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 CGD มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,455.31 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.86 ล้านบาท และ ณ วันที่ 21 ส.ค.2566 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 2,893.15 ล้านบาท P/E อยู่ที่ 44.93 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 0.67 เท่า 
    
จับตาโหวตขอยืดอายุหุ้นกู้
ในตอนนี้ CGD ก็ถูกจับจ้องอีกครั้ง หลังจาก CGD เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ CGD219A มี บล. ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และ CGD20OA มี บล.พาย เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ในวันนี้ (23 ส.ค.2566) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 1 ปี และพิจารณาอนุมัติการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน

สำหรับหุ้นกู้ CGD219A ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 6 ก.ย.2566 เป็นวันที่ 6 ก.ย.2567 และพิจารณาอนุมัติการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน จำนวนรวม 30% ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน ณ วันที่ 11 ส.ค.2566 (232.90 ล้านบาท) คิดเป็นเงินต้นหุ้นกู้ที่ชำระคืนจำนวนทั้งสิ้น 69.87 ล้านบาท โดยกำหนดชำระในวันที่ 6 ก.ย.2566 และเงินต้นหุ้นกู้ส่วนที่เหลือจะชำระคืนในวันที่ 6 ก.ย.2567 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้

เช่นเดียวกับ หุ้นกู้ CGD20OA ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน ออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 19 ต.ค.2566 เป็น วันที่ 19 ต.ค.2567 และพิจารณาอนุมัติการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน จำนวนรวม 30% ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน ณ วันที่ 11 ส.ค.2566 (436.80 ล้านบาท) คิดเป็นเงินต้นหุ้นกู้ที่ชำระคืนจำนวนทั้งสิ้น 131.04 ล้านบาท โดยกำหนดชำระในวันที่ 19 ต.ค.2566 และเงินต้นหุ้นกู้ส่วนที่เหลือจะชำระคืนในวันที่ 19 ต.ค.2567 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้

จนกระทั่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ CGD219A และ CGD20OA ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ศึกษาข้อมูล ซักถามผู้ออกหรือผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนและเพียงพอต่อการตัดสินใจลงมติดังกล่าว

โดย ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ และผลกระทบที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับจากการมีมติอนุมัติ หรือไม่อนุมัติให้ชัดเจนในแต่ละทางเลือก พร้อมเหตุผลประกอบ โดยมีความเห็นของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ประกอบด้วย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องขอขยายระยะเวลาดังกล่าว เนื่องจากการก่อสร้างโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ เกิดความล่าช้าจากเดิมที่มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2561 จากการที่ผู้รับเหมาได้ทำผิดสัญญาไม่สามารถส่งมอบงานและมีการล่าช้ามากกว่า 4.5 ปี ส่งผลกระทบต่อการรับรู้รายได้ที่ล่าช้าจากแผนการรับรู้รายได้ที่คาดการณ์ไว้ 

นอกจากนี้ ทางวิศวกรที่ปรึกษาของโครงการซึ่งมีหน้าที่ตามสัญญาได้ประเมินมูลค่าความเสียหายจากการส่งมอบงานล่าช้ารวมมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท และ บริษัทไม่สามารถโอนสิทธิการเช่าห้องชุดได้ตามกำหนด อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ด้วยผู้เช่าห้องชุด ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งไม่สามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อทำการจดทะเบียนสิทธิการเช่าห้องชุดตามกำหนดได้

ย้อนไทม์ไลน์หุ้นกู้ CGD
ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) พบว่า หุ้นกู้ 2 รุ่นดังกล่าว ไม่ใช่การขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนเป็นครั้งแรก

ย้อนไปในปี 2565 เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2565 ได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ CGD219A ออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 6 ก.ย.2565 เป็น วันที่ 6 ก.ย.2566 

เช่นเดียวกัน ขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ จากเดิม 7.50% ต่อปี เป็น 7.75% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2565 จนถึง (แต่ไม่นับรวม) วันที่ 6 ก.ย.2566 ในช่วงเวลาที่ขอขยายอายุหุ้นกู้ออกไป ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติวาระดังกล่าว
และเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2565 ยังได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ CGD20OA ออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 19 ต.ค.2565 เป็น วันที่ 19 ต.ค.2566 

รวมทั้งขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ จากเดิม 7.50% ต่อปี เป็น 7.75% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2565 จนถึง (แต่ไม่นับรวม) วันที่ 19 ต.ค.2566 ในช่วงเวลาที่ขอขยายอายุหุ้นกู้ออกไป ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติวาระดังกล่าว

นอกจากนี้ CGD ยังมีหุ้นกู้อีก 2 รุ่น ได้แก่ CGD213A และ CGD206A ที่ได้มีการขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปเช่นกัน

โดยเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2565 ได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ CGD213A ออกไปอีก 2 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 23 มี.ค.2565 เป็น วันที่ 23 มี.ค.2567 

และขออนุมัติชำระคืนเงินต้นบางส่วน โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วยลงจำนวนรวมไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย ณ วันที่ 23 มี.ค.2565 โดยแบ่งชำระเป็น 4 งวด คือ งวดวันที่ 23 มี.ค.2565, งวดวันที่ 23 ก.ย.2565, งวดวันที่ 23 มี.ค.2566 และงวดวันที่ 23 ก.ย.2566 

รวมทั้งขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ จากเดิม 7.5% ต่อปี เป็น 7.75% ต่อปี ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติวาระดังกล่าว

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2565 ได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ CGD206A ออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 25 มิ.ย.2565 เป็น วันที่ 25 มิ.ย.2566 ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติวาระดังกล่าว

จากนั้นเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 ขออนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ CGD206A ออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 25 มิ.ย.2566 เป็น วันที่ 25 มิ.ย.2567 

นอกจากนี้ ขออนุมัติการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน จำนวนรวม 30% ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน ณ วันที่ 19 พ.ค.2566 (คิดเป็นเงินต้นหุ้นกู้ที่ชำระคืนจำนวนทั้งสิ้น 240 ล้านบาท) โดยกำหนดชำระในวันที่ 26 มิ.ย.2566 และเงินต้นหุ้นกู้ส่วนที่เหลือจะชำระคืนในวันที่ 25 มิ.ย.2567 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติวาระดังกล่าว

ดังนั้น ปัจจุบัน CGD มีหุ้นกู้คงค้างในระบบจำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย

  • CGD213A ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 23 มี.ค.2567 มูลค่าเสนอขาย 2,000 ล้าบาท มูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน 1,562.40 ล้านบาท
  • CGD206A ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 25 มิ.ย.2567 มูลค่าเสนอขาย 1,000 ล้าบาท มูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน 555.74 ล้านบาท
  • CGD219A ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 6 ก.ย.2566 (เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้วันที่ 23 ส.ค.นี้ เพื่อขอขยายไปอีก 1 ปี) มูลค่าเสนอขาย 700 ล้าบาท มูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน 232.90 ล้านบาท
  • CGD20OA ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 19 ต.ค.2566 (เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้วันที่ 23 ส.ค.นี้ เพื่อขอขยายไปอีก 1 ปี) มูลค่าเสนอขาย 700 ล้าบาท มูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน 436.80 ล้านบาท

หุ้นกู้ CGD ขึ้นสถานะ RS ทั้ง 4 รุ่น
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยกับ “โพสต์ทูเดย์” ว่า CGD มีหุ้นกู้คงค้างในระบบจำนวน 4 รุ่น มีสถานะเป็นหุ้นกู้ปรับโครงสร้างหนี้ (Restructure : RS) ทั้งหมด โดยหุ้นกู้ CGD เข้าแผนปรับโครงสร้างหนี้ครั้งแรกตั้งแต่เดือน ต.ค.2563 หลังจากเกิดโควิด-19  

ล่าสุด มีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ CGD219A และ CGD20OA ในวันที่ 23 ส.ค.2566 เพื่อขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 1 ปี และพิจารณาอนุมัติการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน จากเดิมที่ CGD219A จะครบกำหนดตั้งแต่ปี 2563 และ CGD20OA จะครบกำหนดตั้งแต่ปี 2564 แต่มีการขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้มาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การลงมติขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นพิจารณาว่าถ้าผู้ถือหุ้นกู้ไม่อนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 1 ปี ก็ต้องดูว่าเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน บริษัทสามารถที่จะหาแหล่งเงินทุนเพื่อจำมาชำระคืนเงินต้นได้หรือไม่

“ถ้าผู้ถือหุ้นกู้คิดว่าจะยอมต่อลมหายใจ ก็อนุมัติขยายเวลาให้ แต่ต้องคืนเงินต้นบางส่วนก่อน ซึ่งทางบริษัทก็ต้องนำเสนอข้อมูลเพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาได้ ขณะเดียวกัน หุ้นกู้ปรับโครงสร้างหลายตัวก็สามารถพ้นออกไปจากสถานะปรับโครงสร้างได้ ไม่ได้มีการ Rollover ไปตลอด อย่างบางบริษัทที่ธุรกิจฟื้นตัวเขาสามารถออกจากแผนและสามารถจ่ายเงินต้นได้ทั้งจำนวนเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ไม่ได้ Rollover ต่อไปเรื่อยๆ แล้ว ดังนั้นขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจของบริษัทด้วย นอกเหนือจากสภาวะเศรษฐกิจ” นางสาวอริยา กล่าว

จับตาปี 2567 หุ้นกู้ CGD ขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก!!!