จับตาโหวตชื่อนายกฯซ้ำขัดรัฐธรรมนูญ? รู้ผลวันนี้! หุ้นไทย 1515 จุด ห้ามหลุด
วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา "รับ-ไม่รับ" คำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีการเสนอชื่อนายกฯซ้ำขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่? ผสานแรงกดหลังฟิทช์หั่นเรตติ้งธนาคารสหรัฐฯ-เศรษฐกิจจีนอ่อนแอ หุ้นไทยวันนี้ “Sideways” กรอบ 1,515 - 1,540 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาย่อตัว ตอบรับ Fitch เตือนปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารสหรัฐฯหลายแห่ง ซึ่งก็สอดคล้องกับ Moody’s ที่ปรับลดไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ผสานกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัวยังเป็นปัจจัยกดดัน
โดยตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ที่ทยอยออกมาแล้ว เช่น ยอดค้าปลีกจีน ก.ค. +2.5%y-y แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 4%y-y เช่นเดียวกับ ตัวเลขผลผลิต ภาคอุตสาหกรรมจีนที่ขยายเพิ่มขึ้น 3.7%y-y ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +4.3%y-y บ่งชี้สัญญาณเศรษฐกิจจีนยังไม่ดีนัก ส่วนด้านสหรัฐฯ มีการรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกที่ +0.7%m-m ขยายตัวได้ดีกว่าตลาดคาดที่ +0.4%m-m ส่วนวันนี้แนะจับตาการรายงานตัว GDP 2Q23 ยูโรโซน และรายงานประชุม FED รอบที่ผ่านมา
ส่วนประเด็นในประเทศวันนี้ แนะจับตาการพิจารณาของศาลรัฐธรรนูญในประเด็นที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องการเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยหากศาลฯไม่รับคำฟ้อง หรือ ศาลฯรับแต่ไม่ได้มีการยุติกระบวนการโหวตนายกฯของสภาฯก็จะทำให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าได้ต่อ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่เข้ามากระตุ้นตลาดเพิ่มเติมได้ โดยเราคาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะชัดเจนภายในเดือนสิงหาคมนี้ ดังนั้นยังประเมินจังหวะ SET ย่อตัวเป็นโอกาสสะสมหุ้นแนวโน้มกำไรดีในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับหุ้นไทยวันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,515 - 1,540 จุด Fitch เตือนปรับลดเรตติ้งธนาคารสหรัฐฯ ผสานเศรษฐกิจจีนยังอ่อนแอกดดัน ขณะที่ในประเทศวันนี้จับตาการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากผลไม่ได้กระทบการโหวตนายกฯ คาดจะช่วยเพิ่มจิตวิทยาบวกต่อ SET ได้
โดยหุ้นที่ยังน่าสะสมเน้นกลุ่มกำไร 2Q23 ดีกว่าคาด และมีการเติบโตต่อใน 2H23 แนะนำหุ้น “ERW” ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท รายงานกำไรปกติ 2Q23 ที่ 133 ล้านบาท ปรับขึ้นเด่นจากขาดทุนใน 2Q22 ที่ 151 ล้านบาท และดีกว่าตลาดคาด 44% แรงหนุนหลักจากรายได้และอัตราการทำกำไรที่ดีกว่าคาด
โดย RevPar (ไม่รวม Hop Inn) อยู่ที่ 2.4 พันบาทต่อคืน (เพิ่มขึ้น 102%y-y , ลดลง 9%q-q) แข็งแกร่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว (Occ. Rate ทรงตัวในระดับสูงที่ 80%) คาดแนวโน้ม 3Q23 จะโตต่อเนื่องทั้ง q-q , y-y ตามตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง


