posttoday

เปิดสถิติ 10 ปีย้อนหลัง กำไร-รายได้หุ้นไอพีโอ

03 กรกฎาคม 2566

ตลท.เปิดสถิติหุ้นไอพีโอในช่วง 10 ปี (56-66) มีไอพีโอ 305 บริษัท พบ 65% มีกำไรเฉลี่ยเติบโตทุกปี และ 80% มีรายได้เฉลี่ยเติบโตทุกปี แต่มี 8% ขาดทุน ช่วง 3 ปี หลังเข้าไอพีโอ ขณะที่ 50% ของ บจ. ใน SET และ 70% ของ บจ. ใน mai มาร์เก็ตแคปเติบโตดี ยังมี 21 บริษัท ย้ายจาก mai ไปเทรด SET

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ในช่วงปี 2556-2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยทั้งหมด 305 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่ IPO ในตลาด SET และ mai ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมีการกระจายตัวในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยมีความโดดเด่นในกลุ่ม Services และ Property & Construction ที่มีสัดส่วนจำนวน บจ. IPO มากที่สุด 

เมื่อผ่านเกณฑ์ และสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้แล้ว พบว่าบริษัทที่เข้า IPO ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรสุทธิรายปีในช่วง 3 ปีหลังเข้า IPO ที่ค่อนข้างดี กล่าวคือ 65% มีกำไรเฉลี่ยเติบโตทุกปี โดยพบ 61% ของบริษัทในกลุ่ม SET100, 49% ของบริษัทในกลุ่ม Non-SET100 และ 44% ของบริษัทในกลุ่ม mai ที่เติบโตเฉลี่ยในอัตราที่เกินกว่า 20% ต่อปีด้วย 

ทั้งนี้ บจ. ในกลุ่ม Financials และ Resources โดดเด่นที่สุด มีสัดส่วนบริษัท 75-80% ที่มีกำไรเฉลี่ยเติบโตทุกปี อนึ่งมี 25 บริษัท1 หรือคิดเป็นเพียง 8% ของ บจ. IPO ทั้งหมด ที่มีผลประกอบการรวมขาดทุนในช่วง 3 ปีหลังเข้า IPO

นอกจากนี้ หากพิจารณาการเติบโตด้านรายได้หลังจากเข้า IPO พบว่า บจ. มีรายได้ 3 ปีหลังเข้า IPO เติบโตดีมาก เกือบ 80% มีรายได้เฉลี่ยเติบโตทุกปี อีกทั้งประมาณ 30% ของ บจ. ที่เข้า IPO ทั้งในตลาด SET แล mai มีรายได้เฉลี่ยเติบโตมากกว่า 20% ต่อปีอีกด้วย ซึ่งในระดับรายอุตสาหกรรมพบว่า 80-90% ของ บจ. ในกลุ่ม Financials Technology Services และ Agro & Food มีรายได้เฉลี่ย 3 ปีหลัง IPO เติบโตทุกปี 

เปิดสถิติ 10 ปีย้อนหลัง กำไร-รายได้หุ้นไอพีโอ

หลังจากที่ได้เห็นการเติบโตด้านผลประกอบการและรายได้กันมาแล้ว อีกมุมหนึ่งที่หลายคนสนใจคือการเติบโตด้านมูลค่าและขนาดของบริษัทหลังเข้าจดทะเบียน IPO ซึ่งพบว่าหลังจากที่บริษัทได้เข้ามาระดมเงินทุนและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเพื่อการขยายธุรกิจแล้ว ประมาณ 70% ของ บจ. ที่ IPO ในตลาด mai และประมาณครึ่งหนึ่งของ บจ. ที่จดทะเบียนในตลาด SET มี market cap เติบโตดีถึงปัจจุบัน 

ทั้งนี้ หากพิจารณารายอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่ม Technology และ Agro & Food มีความโดดเด่น โดยประมาณ 75% มี market cap ขยายตัวดีถึงปัจจุบัน รองลงมาคือกลุ่ม Services และ Financials ที่ประมาณ 65% มี market cap เติบโตดี 

อีกทั้งพบว่ามี 7 บริษัท คิดเป็น 2% ของ บจ. IPO ทั้งหมด ที่มูลค่า market cap ปัจจุบันหดตัวลงเกินกว่า 25% เมื่อเทียบกับ ณ IPO

นอกจากการมีมูลค่า market cap ที่เติบโตดีขึ้นแล้ว ยังพบ บจ. ที่เติบโตจนสามารถย้ายจากตลาด mai ไปที่ตลาด SET ได้ถึง 21 บริษัท คิดเป็น 14% ของ บจ. ที่เข้า IPO ในตลาด mai ทั้งหมดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เกินครึ่งหนึ่งของ บจ. ดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่เกิน 3 ปี เพื่อที่จะเติบโตและได้ย้ายตลาด โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Resources และ Services 

การที่บริษัทเข้ามา IPO นอกจากตัวบริษัทได้ใช้กลไกตลาดทุนเพื่อระดมทุนไปขยายธุรกิจให้เติบโตได้แล้ว ในมุมผู้ลงทุน บริษัท IPO เหล่านี้ยังเป็นทางเลือกให้สามารถลงทุนในธุรกิจได้หลากหลาย เพื่อบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้ดีขึ้น

ข่าวล่าสุด

ไปรษณีย์ไทย รับนโยบาย พร้อมเป็นช่องทาง ชำระภาษีนำเข้าต่างประเทศ