posttoday

แล้งทั้งโลก! ผ่าธีมหุ้นฝ่าวิกฤติ"เอลนีโญ"ร้อนสุดรอบ 4ปี

27 มิถุนายน 2566

ปรากฎการณ์ "เอลนีโญ"อากาศร้อนสุดรอบ 4 ปี คลองปานามาแห้งขอด กระทบทำกลุ่มเกษตร-อาหาร-เครื่องดื่มช่วงครึ่งปีหลัง โบรกส่อง 18 หุ้นอาหารเครื่องดื่มปีนี้ดตัวไหนยังไหว พร้อมคัด 7 หุ้นรับอานิสงส์

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า เอลนีโญ (El Niño) คือปรากฎการณ์ของสภาพภูมิอากาศที่อุณหภูมิปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิดคลื่นความร้อน, ฝนตกน้อยลง และภาวะแห้งแล้งเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก อาทิ ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(รวมประเทศไทย) และประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากน้ำทะเลตอนกลางและทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเฉพาะในแถบเส้นศูนย์สูตรจะอุ่นขึ้น และจะเกิดฝนตกมากขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งของทวีปอเมริกาใต้ เอลนีโญมักจะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานครั้งละราว 12-18 เดือน

แล้งทั้งโลก! ผ่าธีมหุ้นฝ่าวิกฤติ\"เอลนีโญ\"ร้อนสุดรอบ 4ปี      โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) หนึ่งในองค์กรของสหประชาชาติได้ประมาณการว่ามีโอกาส 60% ที่จะเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญภายในเดือน ก.ค.66 และเพิ่มขึ้นเป็น 80% สิ้นเดือน ก.ย.66 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยำคาดการณ์ฤดูฝนของประเทศไทยในปี 66 จะเริ่มช้ากว่าปกติ และปริมาณฝนโดยรวมทั้งปีจะน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติราว 5%

     ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าเอลนีโญเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ต้องติดตามสำหรับการลงทุนในกลุ่มเกษตร, อาหารและเครื่องดื่มในช่วงครึ่งปีหลังและต่อเนื่องถึงปี 67 ซึ่งหากเกิดรุนแรงอาจกระทบต่ออุณหภูมิอากาศในประเทศให้ร้อนขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 ปี (ตั้งแต่ภาวะเอลนีโญล่าสุดในปี 62)หรือมากกว่า และมีความเสี่ยงในการเกิดภัยแล้งซึ่งอาจส่งกระทบต่อเนื่องต่อระบบชลประทาน, ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตร และปริมาณน้ำหนักตัวของปศุสัตว์

     จากการรวบรวมข้อมูลย้อนหลังในอดีตเราประเมินว่าผลกระทบจากภาวะเอลนีโญจะส่งผลกระทบจำกัดต่อราคาสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ในประเทศเนื่องจากแผนการเตรียมรับมือของทางภาครัฐฯในการกักเก็บน้ำล่วงหน้าซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรในประเทศได้ อย่างไรก็ตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกอาจมีความผันผวนมากขึ้นจำกัดความเสี่ยงของสภาพอากาศที่จะกระทบปริมาณผลผลิตในระดับที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

     โดยรวมฝ่ายมองเป็นกลาง-บวกต่อราคาสินค้าเกษตร, มองเป็นกลาง-ลบต่อกลุ่มฟาร์มสัตว์บก และมองเป็นบวกต่อกลุ่มเครื่องดื่มที่ได้ประโยชน์จากอุณหภูมิอากาศที่สูงขึ้นหนุนความต้องบริโภคเครื่องดื่ม 

เอลนีโญในอดีตกระทบราคาสินค้าเกษตรจำกัด

     จากการเก็บข้อมูลย้อนหลัง 14 ปี (ตั้งแต่ปี52) โดยอิงตามดัชนีชี้วัดคำนวนอุณหภูมิผิวน้ำทะเล (Oceanic Nino Index; ONI) พบว่ามีการเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญทั้งหมด 3 ครั้ง ได้แก่ ช่วงปี 52-53, 58-59 และ 62-63 (ตัวเลข ONI มากกว่า 0 สะท้อนระดับอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงกว่าปกติ) ในระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน พบว่าการขยับตัวของราคาสินค้าเกษตรในประเทศส่วนใหญ่มีลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับการเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ

 

แล้งทั้งโลก! ผ่าธีมหุ้นฝ่าวิกฤติ\"เอลนีโญ\"ร้อนสุดรอบ 4ปี

     ทำให้เราประเมินว่าแม้เอลนีโญจะมีความเสี่ยงต่อปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรแต่การบริหารจัดการน้ำและปริมาณน้ำที่เหลือใช้สำหรับการเกษตรมีส่วนสำคัญในการช่วยจำกัดความเสี่ยงดังกล่าว ขณะเดียวกันมองว่าราคาสินค้าเกษตรยังขึ้นกับ Demand และต้นทุนการปลูกเป็นหลักมากกว่า

ติดตามน้ำในเขื่อน

     ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าในการประเมินผลกระทบของเอลนีโญที่มีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี66 จะต้องติดตามปริมาณน้ำในเขื่อนและปริมาณน้ำที่ใช้การได้ที่เหลืออยู่ควบคู่กันเป็นหลัก เพราะเรามองว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรในประเทศมากกว่าอุณหภูมิที่ร้อนมากขึ้น หากปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ระดับที่ต่ำกว่าเฉลี่ยในอดีตจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อความเพียงพอของน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกหนุนราคาสินค้าเกษตรในประเทศให้สูงขึ้น

     จากการรวบรวมข้อมูลปริมาณน้ำในเขื่อนที่ใหญ่ที่สุด 6 อันดับแรกซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทุกภาคของประเทศพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนปัจจุบันโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล เนื่องจากยังอยู่ระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต (เฉลี่ย 5 ปี, 10 ปี และ 15 ปี) จากแผนการบริหารน้ำของภาครัฐฯ เพื่อรับมือกับผลกระทบของเอลนีโญ ดังนั้นเราประเมินว่าราคาสินค้าเกษตรในประเทศจะยังได้รับผลกระทบจำกัดจากปรากฎการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับสถิติย้อนหลังในอดีต 

     อย่างไรก็ตาม ฝ่ายมองว่าปริมาณน้ำในเขื่อนยังเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องหากระดับน้ำเริ่มต่ำกว่ำเฉลี่ยอดีตจะหนุนราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นจะเป็นบวกต่อกลุ่มสินค้าเกษตรต้นน้ำ อาทิ ธุรกิจผู้ผลิตข้าว, น้ำตาล, ปาล์ม, ยาง เป็นต้น แต่จะกดดันต้นทุนการเลี้ยงปศุสัตว์เป็นลบต่อกลุ่มฟาร์มสัตว์บก โดยปัจจุบันพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดอิงจากปริมาณน้ำในเขื่อนคือพื้นที่ภาคใต้(เขื่อนรัชชประภา)ที่ระดับน้ำในเขื่อนปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 

 

คลองปานามาแห้งกระทบ Soft-Commodityโลก

     ปรากฎการณ์เอลนีโญส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของโลกให้ผันผวนมากขึ้นเช่นกัน โดยในยุโรปมีแนวโน้มที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นกว่าปกติ(อิงจาก NOAA สหรัฐฯ) และมีความเสี่ยงที่ระดับน้ำโดยรวมจะลดน้อยลง ระดับน้ำของแม่น้ำ Rhine ซึ่งเป็นน้ำหลักในการขนส่งเสบียง, สินค้าเกษตร และสินค้าพลังงานในภูมิภาคยุโรปทำระดับต่ำต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.66 ซึ่งหากยังมีแนวโน้มลดลงต่อ คาดจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าทางเรือ หนุนค่าระวางเรือและสินค้าเกษตรในตลาดโลกให้สูงขึ้น

     ขณะที่ ฝั่งทวีปอเมริกาคลองปานามาซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งสินค้าระหว่างมหาสมุทร Atlantic ไปยังมหาสมุทร Pacific มีสินค้าสำคัญ มีปริมาณน้ำที่ลดลง ส่งผลให้เรือใหญ่ไม่สามารถแล่นผ่านได้ ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือ ส่งผลให้ต้องใช้ระยะเวลาการขนส่งนานขึ้นและหนุนค่าระวางเรือ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องต่อราคาสินค้าเกษตรเช่นกัน นอกจากนี้เราประเมินว่าภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นในบราซิล (จากผลของเอลนีโญ)จะมีความเสี่ยงต่อปริมาณผลผลิต และหนุนราคาสินค้าเกษตร อย่าง ถั่วเหลือง และกาแฟ (บราซิลเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองมากที่สุดอันดับ 1 ของโลก)

     ดังนั้นสภาพอากาศของโลกที่ผันผวนและได้รับผลกระทบจากเอลนีโญจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก อาทิ ข้าวสาลี และถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญสำหรับการทำปศุสัตว์ แต่มีปริมาณผลผลิตในประเทศต่ำและต้องพึ่งพิงการนำเข้าหากราคาข้าวสาลีและถั่วเหลืองสูงขึ้น จะหนุนต้นทุนการเลี้ยงหมู/ไก่ เป็นลบต่อกลุ่มฟาร์มสัตว์บก อย่าง CPF, BTG และ GFPT (กากถั่วเหลืองคิดเป็นราว 25-30% ของต้นทุนการเลี้ยง)

     "คลองปานามาเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลก ปัญหาขาดแคลนน้ำจากปรากฎการณ์เอลนีโญทำให้ฝนตกน้อยลงส่งผลให้การเดินเรือผ่านคลองปานามาทำได้ยากยิ่งขึ้น ต้องใช้เรือลำเล็กขนส่งซึ่งอุปสงค์เรือเล็กสูงขึ้นหนุนให้ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในสัปดาห์ก่อนรวม 16.4% เป็นบวกต่อกลุ่มเรือเทกอง อย่าง PSL , TTA

     ขณะที่ถ่านหินเป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่ถูกขนส่งผ่านคลองปานามาเช่นกัน ทำให้อุปทานถ่านหินลดลงเป็นบวกต่อราคาถ่านหิน รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆซึ่งราคาถ่านหินเริ่มรีบาวด์ในสัปดาห์ก่อนที่ +4.6%WoW นอกจากนี้ NOAA องค์กรด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯคาดประกาฎการณ์เอลนีโญจะต่อเนื่องไปจนถึงหน้าหนาวหรือช่วงปลายปีทำให้ฝ่ายคาดว่าราคาถ่านหินมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเป็นบวกต่อ BANPU และ LANNA"

 

อากาศร้อนทำหมูเบื่ออาหาร

     น้ำถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงสุกร โดยสุกร 1 ตัว กินอาหาร 1 กก.จะต้องกินน้ำราว 3 ลิตร ซึ่งการเลี้ยงสุกรขุนจะใช้น้ำวันละ 10 ลิตร/ตัว ดังนั้นในภาวะอากาศร้อน, ขาดน้ำ หรือเกิดความแห้งแล้งจะทำให้กระทบกับการเลี้ยงสุกรใน 2 ด้าน คือ 1) โดยปกติอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อกำรกินของสุกรลดลง 

     และ 2) หากเกิดการขาดแคลนน้ำดื่มจะส่งผลให้การกินอาหารลดลงเช่นกัน ทั้ง 2 ปัจจัยนี้จึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสุกรช้ากว่าปกติ, มีน้ำหนักตัวลดลง และส่งผลต่อการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีผลต่อการเลี้ยง เพราะต้องใช้สำหรับล้างสุกร, ล้างพื้น และใช้เพื่อช่วยระบายความร้อนให้สุกรอีกด้วย

     ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าหากเกิดภาวะแห้งแล้งรุนแรงนอกจากจะส่งต่อปริมาณสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อปริมาณอุปทานสุกรในตลาด และหนุนราคาสุกรและเนื้อหมูในตลาดให้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามฝ่ายมองเป็นกลาง-ลบต่อกลุ่มฟาร์มสัตว์บก เนื่องจากแม้จะได้อานิสงส์จากราคาขายเฉลี่ยสุกรที่สูงขึ้น แต่ฝ่ายมองว่าจะไม่สามารถชดเชยราคาชต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้นได้ทั้งหมด และยังมีความเสี่ยงในการสูญเสียจากการติดโรคระบาดเพราะภูมิคุ้มกันที่ลดลงในภาวะที่อากาศร้อนขึ้น 

     ขณะเดียวกันราคาสุกรในตลาดปัจจุบันยังได้รับผลกระทบจากปริมาณอุปทานที่สูงขึ้นจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ทำให้คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 ของกลุ่มฟาร์มสัตว์ยังทำได้เพียงทรงตัวหรือฟื้นเล็กน้อย QoQ และชะลอลงแรง YoY ดังนั้นในระยะสั้น-กลาง ฝ่ายยังไม่ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มฟาร์มสัตว์บกเนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกหนุน และมีความเสี่ยงจากผลกระทบของเอลนีโญ ให้รอจังหวะที่ราคาขายสุกรสูงขึ้น หรือต้นทุนการเลี้ยงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองปรับลดลง และความเสี่ยงด้านสภาพอากาศคลี่คลายจึงจะน่าสนใจกลับเข้าลงทุนอีกครั้ง 

 

จับปลาทูน่าได้น้อยหนุนราคาพุ่ง

     อุณหภูมิน้ำทะเลในปี 66 มีการปรับสูงขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตราว 0.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Leading Indicator ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก รวมถึงการเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ โดยอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาในทะเลที่จับได้ เนื่องจากในภาวะที่น้ำทะเลอุ่นขึ้นจะทำให้ปลาว่ายน้ำลึกขึ้นเพื่อรักษาระดับของอุณหภูมิ จึงส่งผลต่อการจับปลาของชาวประมงที่จะทำได้ยากมากขึ้น

     โดยราคาปลาทูน่า ณ สิ้นเดือน พ.ค. อยู่ที่ 2,000 USD/ตัน ปรับตัวสูงขึ้น 17.6% YTD และ 25% YoY ราคาปลาแซลม่อน อยู่ที่ 98.9 NOK/กก. สูงขึ้น 18.1% YTD และ 20.4% YoY สะท้อนปัจจัยดังกล่าว

     ฝ่ายประเมินว่าราคาปลาทูน่าอาจเริ่มมี Upside risk จำกัดแล้ว จากปัจจัยฤดูกาลที่อุณหภูมิน้ำทะเลผ่านจุดสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. แต่คาดราคาปลาทูน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตจากการเข้าสู่ช่วงห้ามจับปลาทูน่าเดือน ก.ค.-ก.ย. และอุณหภูมิน้ำทะเลที่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เป็นลบต่อแนวโน้มต้นทุนของหุ้นส่งออกอาหารทะเลและอาการสัตว์เลี้ยง อาทิ TU, ASIAN, ITC และ AAI ที่คาดยังอยู่ในระดับสูงในไตรมาส 3/66

     ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/66 ยังถูกกดดันจากปริมาณสินค้าคงคลังของลูกค้าในสหรัฐฯและยุโรปที่ยังอยู่ในระดับสูง และระบายสต็อกสินค้าได้ช้ากว่าคาด

     ขณะเดียวกัน ราคาต้นทุนสูงขึ้นทำให้คาดแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มส่งออกอาหารทะเลและอาหารสัตว์เลี้ยงในไตรมาส 2/66 จะทรงตัว QoQ แต่ยังชะลอลงแรง YoY แม้จะได้อานิงสงส์จากค่าเงินบาทเทียบ USD ที่อ่อนค่ามากขึ้นก็ตาม เชิงกลยุทธ์แนะนำรอหาจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้งหลังงบออก

 

กลุ่มเครื่องดื่มคือพระเอก

แล้งทั้งโลก! ผ่าธีมหุ้นฝ่าวิกฤติ\"เอลนีโญ\"ร้อนสุดรอบ 4ปี      หากเกิดเอลนีโญรุนแรง ฝ่ายมองกลุ่มเครื่องดื่มจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุด จากปริมาณความต้องการบริโภคเครื่องดื่มที่จะสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนมากกว่าปกติ

     ซึ่งทำให้แนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังที่แม้ปกติจะชะลอลงตามปัจจัยฤดูกาล มีโอกาสที่จะชะลอลงเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกน้อยกว่าปกติ และเติบโตเด่นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น Upside ต่อประมาณการกำไรทั้งปีของกลุ่มเครื่องดื่มของเรา

     ส่วนแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 2/2566 ของกลุ่มคาดเติบโตทั้งไตรมาสก่อนและปีก่อน ทำระดับสูงสุดของปีจากปัจจัยฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่เป็น High Season ของธุรกิจ ประกอบกับได้อานิสงส์จากการบริโภคในประเทศที่เติบโตจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากขึ้น

โดยฝ่ายคาดกลุ่มเครื่องดื่มขนาดกลาง-เล็กจะมีผลประกอบการที่โดดเด่นกว่ากลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากรายได้ที่เติบโตได้ชัดเจน และแนวโน้มต้นทุนที่ฟื้นได้มากกว่า มองต้นทุนกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังจะฟื้นชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2566 

 

ส่อง 18 หุ้นอาหารเครื่องดื่ม คัด 3 หุ้นดี

     ฝ่ายวิเคราะห์ให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเครื่องดื่มมากกว่ากลุ่มอาหาร ชอบหุ้น ICHI ราคาเป้าหมาย 15.80 บาท และ HTC ราคาเป้าหมาย 48 บาท สำหรับการลงทุนระยะสั้นเพื่อเก็งงบไตรมาส 2/66 ที่จะทำระดับสูงสุดของปี และ ชอบ OSP ราคาเป้าหมาย 36 บาท

     สำหรับการลงทุนระยะยาวและเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของส่วนแบ่งตลาด และ GPM มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้

 

แล้งทั้งโลก! ผ่าธีมหุ้นฝ่าวิกฤติ\"เอลนีโญ\"ร้อนสุดรอบ 4ปี