posttoday

เช็คลิสต์! 34 หุ้นใหญ่ร่วงแรง-น่าช้อป

09 มิถุนายน 2566

เช็คลิสต์! 34 หุ้นใหญ่ร่วงแรงหลังเลือกตั้ง ราคายังไม่ดีดกลับ 3โบรกเห็นพ้องสัญญาณช้อปชัดเจน โหนกระแส Fund Flow ต่างชาติไหลเข้า พร้อมชี้ช่องลงทุนหุ้นพื้นฐานดี ราคาจับต้องได้

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยมีเสน่ห์ในหลายมุม ดึงดูด Flow ต่างชาติไหลเข้า หลัง World bank และ OECD ปรับประมาณการ GDP โลกปี 2023ขึ้น ขณะเดียวกันประมาณการ GDP Growth ประเทศฝั่ง Developed Market น้อยกว่าฝั่ง Emerging Market ชัดเจน 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆของไทยยังดูดี อาทิ 1.ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน พ.ค. + 0.53%YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดอย่างมากที่ 1.6%YoY และเดือนก่อนหน้า 2.67%YoY) อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในปัจจุบันพลิกกลับมาเป็นบวกที่ 1.47% (ดอกเบี้ย 2% - เงินเฟ้อ 0.53%) ขณะเดียวกัน CPI ล่าสุดยังอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-3% จึงมีโอกาสหนุนให้ กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ในการประชุม 2 ส.ค.66

2.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของกระทรวงพาณิชย์ เดือน พ.ค.66 อยู่ที่ 56.6 จุด สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 53.5 จุด ขณะที่วานนี้ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคของ ม.หอการค้าฯ เดือน พ.ค. อยู่ที่ 55.7 จุด ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 55 จุด และอยู่ในระดับสูงสุดรอบ 39 เดือนนับตั้งแต่เดือน มี.ค.66 หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว-การบริโภคภาคเอกชน รวมถึงราคาพลังงานปรับตัวลดลง

ค้าปลีกส่งกลิ่นหอม

ปัจจัยบวกดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก (Commerce) ให้ Outperform SET ได้หลังจากนี้ ส่วนหนึ่งสะท้อนจากค่า Correlation ระหว่างดัชนี CCI และดัชนีหุ้นกลุ่ม Commerce ที่สูงถึง 0.71 แนะนำ CRC, CPALL, COM7, HMPRO, MAKRO, COM7

ซึ่งประเด็นดังกล่าว ทำให้ SET Index มีโอกาส Outperform ตลาดหุ้นอื่นๆ และ เป็นที่หมายปองของนักลงทุนอีกครั้ง สังเกตจากวานนี้ต่างชาติและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิทั้งคู่กว่า 1.8 พันล้านบาท และ 2.2 พันล้านบาท ตามลำดับ

จากสถิติในอดีต ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ถ้าต่างชาติและสถาบันซื้อสุทธิหุ้นไทยพร้อมกัน SET Index มักสร้างผลตอบแทนเป็นบวกเสมอ(โอกาสที่ Return จะเป็นบวก 88.7%) โดยมีค่าเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 0.65% 
เช็คลิสต์! 34 หุ้นใหญ่ร่วงแรง-น่าช้อป

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เน้นหุ้นขนาดใหญ่ปรับฐานลงมาลึกกว่า SET Index หลังเลือกตั้ง อาทิ CBG, CRC, SCGP, GULF, BEM, PTTGC, IVL เป็นต้น

22 หุ้นใหญ่ปรับฐานลงลึก หลังเลือกตั้งน่าสะสม
เช็คลิสต์! 34 หุ้นใหญ่ร่วงแรง-น่าช้อป

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีเสน่ห์จากปัจจัยภายในสู่ภายนอก เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของ Flow ที่จะไหลเข้า ซึ่งสถิติในอดีต ถ้า Flow ต่างชาติ และ สถาบันเข้าหุ้นไทย ดังนั้นหุ้นมักปรับตัวขึ้นเสมอ

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน เน้นหุ้นที่ปรับตัวลงมาลึกกว่า SET Index หลังเลือกตั้ง และมีกำไรเติบโตในอนาคต อาทิ หุ้น CRC ราคาเป้าหมาย 55 บาท หุ้น IVL ราคาเป้าหมาย 44 บาท และ หุ้น SCGP ราคาเป้าหมาย 56 บาท

12 หุ้นลงลึก-น่าเก็บ

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า SET200 Rebound Plays อิงราคาปิด SET วันที่ 11 พ.ค.66 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนการเลือกตั้ง ล่าสุด SET ปรับลงราว -1.1%  

ทีมกลยุทธ์คัดหุ้นที่ราคายัง laggard และยังมีความน่าสนใจทางพื้นฐาน ดังนี้ *TRUE(-13.66%), CRC(-12.%), SCGP(-12.7%), *PR9(-12.4%), *OR(-12.02%), *DOHOME(-11.5%), *CHG(-10.8%), GULF(-10.8%), BJC(-9.88%), GPSC(-9.6%), *SAWAD(-9.02%), *MAKRO (-7.23%)

ทั้งนี้ การเมืองไทยเริ่มมีความชัดเจน คาด กกต. รับรองผลการเลือกตั้งภายในเดือน มิ.ย.66 สะท้อนสัญญาณค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่า เชื่อหนุน Fund Flow ต่างชาติไหลเข้า มองหุ้นนำตลาดอยู่ในกลุ่ม Big Cap ที่ปรับฐานลึกหลังเลือกตั้ง ทั้ง ค้าปลีก, โรงไฟฟ้า, ICT อาทิ CRC, MAKRO, GULF, GPSC, TRUE 

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง แนะนำ ADVANC,  AMATA,  WHA, BBL, KBANK, TTB, SCB

ขณะที่ หุ้นลุ้นรับอานิสงส์นโนบายส่งเสริมธุรกิจฐานรากของพรรคก้าวไกล แนะนำ BBL, ADVANC, OSP, MC, TOA, ICHI และ หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกำไรมีแนวโน้มเด่น ICHI, TOA, MAKRO, ADVANC, OSP, CRC , SCGP, BE8, BBIK

ปรากฏการณ์ Short squeeze

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า SET ยังคงคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของเดือนมิ.ย.อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงดัชนีหุ้นไทยที่เริ่มเห็นสัญญาณที่แข็งแกร่งเมื่อวานนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากโมเมนตัมของ Fund flow ที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และการ Long สุทธิในตราสาร Index futures ในระดับที่มีนัยสำคัญกว่า 3.7 หมื่นสัญญา

ถือเป็นการเปิดสถานะใหม่ส่วนใหญ่เสียด้วย มองการปรับตัว Outperform ของหุ้นไทยเมื่อวานนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ Short squeeze สะท้อนผ่านการดีดขึ้นแรงของหุ้นที่ปรับลงมาแรงหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น อาทิ กลุ่มพลังงานและกลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นต้น 

5 หุ้นช็อตแรง-ราคาไม่ดีดกลับ

จากการตรวจสอบของเรานับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.66 เป็นต้นมา หุ้นที่มีสัดส่วนวอลุ่มการ Short sell สูงที่สุดแล้ว ราคายังไม่ได้ดีดขึ้นมามากนัก ได้แก่ EGCO, BGRIM, BTS, BJC, CBG เป็นต้น ซึ่งหุ้นเหล่านี้อาจเห็นปรากฏการณ์ Short covering เกิดขึ้นได้ หากในระยะสั้นดัชนี SET ยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อไป

เชิงกลยุทธ์แนะนำขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้าน-แนวรับที่ให้ไว้ประจำเดือนนี้ ซึ่งมีกรอบแนวต้านแรกอยู่ที่ระดับ 1570 จุด ดังนั้นหากดัชนีเดินหน้าขึ้นไปถึงระดับนี้ แนะนำนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นบางส่วนได้ และถือหุ้นในส่วนที่เหลือ เพื่อลุ้นการขายทำกำไรที่ระดับถัดไป ซึ่งมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1600 จุด หรืออาจใช้ช่วงเวลา 1 วันก่อนหน้าการประชุม FOMC เป็นเงื่อนไขในการ Lock profit ออกมาก่อนได้เช่นกัน เพื่อป้องกันความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.66 

สะสม 5 หุ้นค้าปลีก

มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสะสมหุ้นในจังหวะที่ SET ทะลุระดับ 1550 จุดขึ้นมาแล้วได้แก่ Sector ที่ปรับตัว Laggard นับตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากไม่นับรวมกลุ่ม CONS และ PKG จะพบว่ากลุ่มถัดมาได้แก่ กลุ่มค้าปลีก(COMM) ซึ่งเรามองว่าราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาปรับลงลึกรับความกังวลกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มากเกินไป จนเมื่อวานนี้เราแสดงให้เห็นว่า Valuation ของกลุ่ม ณ ปัจจุบันได้ลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากๆ และต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อยแล้ว

ที่สำคัญมองกลุ่มค้าปลีกดังกล่าวยังได้ปัจจัยบวก หลังเมื่อวานนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือนพ.ค.ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 55.7 สูงสุดในรอบ 39 เดือน

ส่วนดัชนีย่อยอย่าง ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ต่างปรับเพิ่มต่อเนื่องเช่นกัน บ่งชี้ถึงแนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศที่น่าจะยังแข็งแรงอยู่ในช่วงถัดไป ทั้งนี้ หุ้นเด่นในกลุ่มประจำเดือนนี้ได้แก่ BJC, MAKRO, CRC, GLOBAL, DOHOME