posttoday

MAKRO จับตาQ2/66ตัดจ่ายค่าปรับฯงวดสุดท้าย เปิดทางครึ่งปีหลังสดใส

08 พฤษภาคม 2566

MAKRO ผลประกอบการไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 2,165.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% อานิสงส์ธุรกิจค้าส่ง-ออนไลน์-ต่างประเทศ-ฟู้ดเซอร์วิสฟื้นสวนทางกลุ่มค้าปลีก กำไรชะลอตามต้นทุนกู้ยืม-ไฟฟ้า-ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ฉุด

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีกำไรสุทธิ 2,165.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากงวดเดียวกันปี 65 ที่มีกำไร 2,050.31 ล้านบาท มีรายได้รวม 120,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขาย 114,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% กลุ่มธุรกิจค้าส่งมียอดขายภายในสาขาเพิ่มขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสินค้าที่รองรับการเติบโตจากการขายออนไลน์และการขายนอกร้านของธุรกิจแม็คโครประเทศไทย อีกทั้งธุรกิจแม็คโครต่างประเทศในทุกประเทศและธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสฟื้นตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้มีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาจากกำไรทางบัญชีจากสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก

ขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีก มีกำไรสุทธิ 269 ล้านบาท ลดลง 12.8% จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้ยืมค่าไฟฟ้าและการตัดจำหน่ายค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ (Upfront fee) จากการชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนด จำนวน 211 ล้านบาท(สุทธิจากภาษีเงินได้)

ครึ่งปีหลังสวย

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  แนวโน้มกำไรในไตรมาส 2/66 แม้เชื่อว่า MAKRO น่าจะมีรายได้ที่สูงขึ้นทั้งเทียบไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายสินค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วยกำลังซื้อที่คาดจะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตดีขึ้น บวกกับการปรับปรุงสาขาเดิมหรือเปิดสาขาใหม่ บวกกับคาดอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)จะสูงขึ้น ตามฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นที่สูงกว่าธุรกิจค้าส่ง แต่กำไรสุทธิอาจถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าปรับที่เกิดจากการจ่ายหนี้เงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐที่เหลือทั้งหมดคืนก่อนกำหนด ซึ่งคาดจะต้องจ่ายค่าปรับไม่ต่ำกว่าในงวดไตรมาส 4/65 และ ไตรมาส 1/66 ที่ได้มีการทยอยคืนหนี้ดังกล่าวก่อนกำหนด ซึ่งจ่ายค่าปรับไปราว 230-260 ล้านบาทต่องวด ทั้งนี้งวดไตรมาส 2/66 จะเป็นงวดสุดท้ายที่จะบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษนี้

ดังนั้นฝ่ายมองว่ากำไรของ MAKRO ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะดูสดใสขึ้น เนื่องจาก 1.คาดหวังรายได้ที่สูงขึ้น โดยงวดไตรมาส 4/66 จะได้ผลบวกจากฤดูกาล ที่เป็นช่วงส่งท้ายปี ซึ่งผู้บริโภคมักมีการจับจ่ายสูงกว่าช่วงอื่นๆ และ 2.ดอกเบี้ยจ่ายที่จะเริ่มลดลง หลังบริษัทได้จ่ายคืนหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐก่อนกำหนดไปหมดแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/66 โดยมีการออกหุ้นกู้สกุลบาทซึ่งมีดอกเบี้ยคงที่ในอัตราที่ต่ำกว่าแทน
 

อย่างไรก็ดีฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 2566-2567 ไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และ 1.8 หมื่นล้านบาทตามลำดับ แม้กำไรงวดไตรมาส 1/66 ที่ออกมามีสัดส่วน 19% ของกำไรทั้งปี เนื่องจากคาดหมายกำไรจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี66 โดยคงราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 44 บาท อิง PER 36.9 เท่า (+2.0 S.D) แต่แนะนำ “Neutral” เพราะเชื่อว่าระยะสั้นยังขาดปัจจัยผลักดันราคาหุ้น อีกทั้งเชื่อว่ากำไรสุทธิในงวด ไตรมาส 2/66 มีแนวโน้มจะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายต่างๆที่เข้ามากดดัน โดยเฉพาะค่าปรับจากการจ่ายหนี้ก่อนกำหนด ขณะที่แนวโน้มกำไรในระยะกลาง-ยาว(ปี 2566-2568)ยังโตได้ด้วยอัตราเฉลี่ย 37%

กราฟดีมีลุ้น
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิเคราะห์คาดผลประกอบการของ MAKRO ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเร่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง จากทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และการปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนทางเทคนิค ราคาดีดตัวขึ้นยก Lowใหม่สูงขึ้นได้ MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนวรับ 38,37 บาท แนวต้าน 41.50,43.50 บาท ตัดขายขาดทุนหากหลุด 36 บาท  
 

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?