posttoday

SET ยืนได้ที่ 1,570 จุด เพื่อรอทดสอบ 1,600 จุด

11 เมษายน 2566

SET สร้างฐานระยะสั้นไว้บริเวณ 1,570 จุด หากไม่ต่ำกว่า คาดว่าดัชนีฟื้นตัวได้ต่อ เพื่อรอทดสอบ 1,600 จุด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ KTB และ AOT

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET สร้างฐานระยะสั้นไว้บริเวณ 1,570 จุด หรือในช่วงนี้มีกรอบล่างบริเวณ 1,580-1,570 จุด หากไม่ต่ำกว่า คาดว่าดัชนีฟื้นตัวได้ต่อ เพื่อรอทดสอบ 1,600 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณจุดสูงเดิม 1,615 จุด ประเด็นสำคัญติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐประจําเดือน มี.ค.ในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ยังมี Upside จํากัดและมีโอกาสพักตัว หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และโดยปกตินักลงทุนจะชะลอการเข้าลงทุนจากการมีวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ (ปกติเดือน เม.ย. วอลุ่มตลาดส่วนใหญ่จะลดลง MoM) อีกทั้งมุมมองที่แตกต่างระหว่างเฟดและตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจนำไปสู่ความผันผวนของตลาดในระยะต่อไปกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤตการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี2566-2567 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากําไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนํา Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยชื้อขายด้วยPER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. ให้คาด Downside เริ่มจํากัด จึงมองเป็นโอกาสชื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF

2. หุ้นที่มีสถิติให้ผลตอบแทนดีหากชื่อวันแรกหลังเปิดสงกรานต์และขายปลายเดือน เม.ย. โดยคัดเลือกหุ้นที่เราแนะนํา Outperform และมีปัจจัยบวกหนุน ได้แก่ กลุ่มพลังงาน เลือก PTT BCP ซึ่งคาดได้อานิสงส์ราคานํ้ามันฟื้นตัว และค่าการกลับเข้าสู่ High Season, กลุ่มค้าปลีก เลือก HMPRO หลังอุปสงค์ เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มให้ความเย็นปรับตัวดีขึ้นจากภาวะอากาศร้อนจัด และหุ้นปันผล เลือก AP KKP KTB LH ซึ่งจะขี้น XD ในช่วงกลาง เม.ย.-ต้น พ.ค. นี้

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ KTB ปี 2566 คาดกําไรจะเติบโต 15%YoY อีกทั้งมองได้ประโยชน์มากที่สุด จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และ valuation น่าสนใจ รวมทั้งมีเงินปันผลจ่าย 0.682 บาท (XD 18 เม.ย.) คิดเป็น Div. Yield 4%

AOT มองกำไรไตรมาส 2/2566 จะแข็งแกร่งขึ้นจากจํานวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจะเติบโตก้าวกระโดดในไตรมาส 3/2566 หลังกลับมาเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำในวันที่ 1 เม.ย. หลังจากมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์สิ้นสุดลง