posttoday

ตลท. ชี้ผลจากนักลงทุน overreact ทำดัชนีหุ้นไทยร่วงแรง พลังงานสะเทือนสุด

14 มีนาคม 2566

ตลท. แจงจากสถานการณ์ที่นักลงทุนตอบสนองมากเกินไป หรือ Overreaction ต่อความกังวลวิกฤติ ของธนาคาร SVB ทำดัชนีหุ้นไทยร่วงแรง จนดิ่งลง 49.18 จุดในวันนี้ พบมีอัตรา Short Sell แค่ 10%

จากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงปิดตลาดวันนี้ปรับตัวดิ่งลง 49.18 จุด (-3.13%) ปิดที่ 1,523.89 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 103,833.09 ล้านบาท โดยการซื้อขายตลอดทั้งวัน ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1,572.36 จุด และแตะสูงสุดที่ 1,518.66 จุด หลังแรงเทขายต่างชาติมีต่อเนื่อง จากความกังวลต่อวิกฤติ Silicon Valley Bank (SVB)

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้มุมมองต่อสถานการณ์ดังกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ใช่เพียงตลาดเดียวที่ปรับลดลง แต่ทุกตลาดในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น เอเชีย ยุโรป ต่างปรับตัวลงมาที่ 2-3% เช่นเดียวกับราคาน้ำมันเบรนท์ที่ลดลงถึง 2.1% ที่ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานถูกระทบอย่างรุนแรง 

อย่างไรก็ตามพบว่าหุ้นกลุ่มที่ราคาร่วงอย่างรุนแรงไม่ใช่กลุ่มสถาบันการเงิน แต่เป็นกลุ่มพลังงาน การค้า และอิเล็กทรอนิกส์  ด้วยมองว่าเศรษฐกิจทั่วโลกที่น่าจะฟื้นตัวได้ช้าลงจาก ดอกเบี้ยขึ้นและสภาพคล่องที่ลดลง 

ทั้งนี้ด้วยสถานการณ์ที่มีการปิดธนาคารเกิดขึ้น แต่จากที่ทางการของทั้งสหรัฐฯ และยุโรปต่างก็ออกมาตรการที่รวดเร็วและเข้มแข็ง จึงมองว่าการเทขายหุ้นครั้งนี้ถือเป็นเป็นการตอบรับข่าวเชิงลบมากเกินไป (Overreaction) สำหรับความกังวลที่มีต่อวิกฤติของ  Silicon Valley Bank (SVB) จึงอยากให้นักลงทุนติดตามข้อมูลและศึกษาสาเหตที่แท้จริง

โดยพบว่ากลุ่มนักลงทุนที่เทขายมากเป็นกลุ่มนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่ 4.7 พันล้านบาท และสถาบันในประเทศที่ 2.4 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายบุคคลซื้อที่ 9.97 พันล้านบาท 

โดยได้เน้นย้ำ 3 ประเด็นที่สำคัญที่ต้องการให้นักลงทุนทำความเข้าใจคือ หนึ่ง ธนาคารที่ปิดตัวลงเป็นลักษณะเฉพาะของธนาคานั้น ๆ ไม่ใช่ปัญหาทั่วไป หรือเกี่ยวข้องกับประเทศไทย สอง ทางการสหรัฐฯ มีมาตรการมาดูแลที่รวดเร็วและเพียงพอกับการแก้ปัญหาวิกฤติของธนาคารที่ปิดตัวลง น่าจะช่วยให้ไม่ลุกลามไปสู่ระบบธนาคารพาณิชย์โดยรวม แต่ยังต้องรอดูว่าเพียงพอแล้วหรือไม่ สาม คุณภาพของระบบธนาคารพาณิชย์ที่แข็งแกร่งมีฐานเงินทุนที่เพียงพอ และมีโครงสร้างเงินฝากที่กระจาย

สำหรับกรณีที่ช่วงท้ายก่อนปิดตลาดที่หุ้นราคาตกลงมากนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจาก Short Sell (การยืมหุ้นเพื่อขายทันทีในราคาปัจจุบัน)  แต่เพราะตลาดหุ้นไทยแทบจะเป็นตลาดสุดท้ายในเอเชียที่ยังเปิดทำการอยู่ ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการขาย เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือต้องการโยกเงินไปในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ก็จะมาส่งคำสั่งขายในตลาดหุ้นไทย เพราะตลาดหุ้นไทย มีสภาพคล่องสูง และปิดช้ากว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค  อย่างไรก็ตามพบว่ามีอัตรา Short Sell อยู่ต่ำกว่า 10% ไม่ต่างจากในวันอื่น ๆ
 

"จากที่ดูข้อมูลเหมือนเป็นการ Overreact จากข่าวที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่เชื่อว่าพรุ่งนี้ตลาดเอเชียที่เปิดก่อนก็จะได้รับผลจากข้อมูลข่าวสารจากตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ในคืนนี้ เช่นล่าสุดตอนนี้ตลาดยุโรปบวก 0.2% ไม่ได้แพนิกเหมือนที่เกิดขึ้น"