posttoday

จิตตะ เวลธ์ แนะลงทุนกระจาย ซื้อหุ้นจีน-ญี่ปุ่น-เวียดนาม รับเอเชียฟื้น

14 ธันวาคม 2565

บลจ. จิตตะ เวลธ์ ชวนคว้าโอกาสลงทุนแบบกระจายจากทุกมุมโลกในปีหน้า ทั้งตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ที่รับปัจจัยบวกช่วงดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง รวมถึงเก็บหุ้นจากตลาดเอเชียที่กำลังฟื้นทั้งจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม รวมถึงไทย ซึ่งได้แรงส่งจากการเลือกตั้ง

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีนี้มีหลากปัจจัยกดดันตลาดการลงทุน ทำให้ราคาสินทรัพย์ ปรับตัวลงทั่วโลก นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ดัชนี S&P500 ปรับลดลงมาแล้ว -14.39%   ขณะที่ดัชนี CSI300 ของจีนปรับลดลง  -22.01%  

 

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ราคาสินทรัพย์ที่ร่วงลงทั่วโลกได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน จนไม่กล้าลงทุนต่อหรือรอคอยให้ตลาดลงต่ำสุดก่อน เพื่อหวังว่าจะเจอจังหวะ ที่ดีที่สุดในการเข้าลงทุน บางรายตัดใจเทขายหุ้นทิ้ง เพราะเกรงว่า ราคาจะลงไปมากกว่าเดิม

 

โดยอาจจะทำให้สถานการณ์ ยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม และทำให้นักลงทุนมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จึงแนะนำว่า การลงทุนที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องรอจับจังหวะที่ดีที่สุด เพราะเราจะไม่มีทางทายถูก ได้ตลอดว่าจุดต่ำสุด จะอยู่ที่จุดไหน ดังนั้น ‘ฤกษ์ที่ดีที่สุด’ สำหรับการลงทุนคือ ‘เลิกรอ’ 

 

“ตลาดหุ้นขาลงทั่วโลกในปีนี้ทำให้นักลงทุนลังเลใจ และมองหาจังหวะการ ลงทุนที่ดีที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่าทุกนาทีที่ผ่านมา เรากำลังเผชิญกับต้นทุนค่าเสียโอกาส   ในทางกลับกันหากยิ่งลงทุนเร็ว เงินก็มีโอกาสงอกเงยทำกำไรได้มากกว่า เพื่อชีวิตที่มั่งคั่งในอนาคต ดังนั้นฤกษ์ที่ดีคือ ‘เลิกรอ’ เพราะโอกาสในปีหน้ามาถึงแล้ว ตั้งแต่วันนี้”

 

ซีอีโอจิตตะ เวลธ์มองว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะมีโอกาสลงทุน ที่น่าสนใจที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม โดยในช่วงต้นปีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หลังจากได้ปรับลงอย่างรุนแรงในปีนี้ จนตลาดคาดว่าในปี 2566 อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25%  ซึ่งเป็นระดับที่สูงและอาจกระทบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ 

 

ดังนั้นอาจจะเห็นเฟดส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยลงได้ในปลายปี 2566 ซึ่งจังหวะที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวและมีแนวโน้มปรับลดลง จะเป็นช่วงโอกาสทองของตลาดตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ และตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพหรือ Investment Grade ซึ่งนักลงทุนสามารถเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่ดีและมีความมั่นคง

 

นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังมีแรงกดดันเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession) อยู่ ตลาดหุ้นในปีหน้าอาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ต่อสู้กับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอยได้ อย่างหุ้นกลุ่มสุขภาพ (Health Care) หรือหุ้นเมกะเทรนด์อย่างกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับลดลงมามากในปีนี้ โดยตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2656 ดัชนี Nasdaq ปรับลดลงมาแล้ว -26.70% จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าลงทุนเพื่อรับเมกะเทรนด์ในอนาคต 

 

ข้ามมาที่กลุ่มประเทศในเอเชีย จะเห็นไทม์ไลน์สำคัญอย่างการผ่อนคลาย มาตราการ ZERO COVID ด้วยการเปิดประเทศของจีน ที่จะเป็นแรงหนุนสำคัญ ให้เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวได้ในภาพรวม ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเปิดเมือง ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2566

 

ทั้งนี้หากเกิดขึ้นจริงตลาดหุ้นจีนที่ปรับลดลงไปกว่า -22.01% ในปีนี้จะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง และยังจะส่งอานิสงส์ไปถึงตลาดหุ้น ทั่วโลกให้ฟื้นกลับมาได้ด้วย ดังนั้นนักลงทุนควรเริ่มสะสมหุ้นจีนตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ได้

 

ในส่วนของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นไทยที่กำลังจะเริ่มฟื้นตัวหลังเปิดประเทศในปีนี้ จะได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้ในปีหน้า นอกจากนี้ประเทศไทยเองยังจะมีประเด็นเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 จะเป็นแรงหนุนกำลังซื้อในประเทศให้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ย่อมมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนมาก จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งตลาดหุ้นไทยและญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งลงทุนที่มีเสถียรภาพ เหมาะที่จะนำมาสร้างสมดุลให้กับพอร์ตลงทุนได้
 

นอกจากนี้ นายตราวุทธิ์ ยังมองว่าตลาดหุ้นเวียดนามเป็นอีกแหล่งที่นักลงทุนห้ามพลาด ด้วยราคาหุ้นที่ปรับลดลงตั้งแต่ต้นปีมาถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ปรับลดลงไปแล้ว -30.03% ทำให้ P/E Ratio อยู่ที่ 10.8 ถือว่าราคาค่อนข้างถูก เมื่อพิจารณาจากความต้องการลงทุนเพื่อย้ายฐานการผลิต ด้วยค่าแรงต่ำ และประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมหาศาล จะทำให้เวียดนามมีเสน่ห์ และเป็นดาวเด่นได้ในระยะยาว

 

“จะเห็นได้ว่าในแต่ละช่วงเวลาของปี 2566 จะมีโอกาสการลงทุนที่กระจาย อยู่ทั่วทุกมุมโลก หากที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปกับการรอ นั่นเท่ากับเรากำลังพลาด โอกาสที่เงินจะงอกเงย”
 

 

จิตตะ เวลธ์ แนะลงทุนกระจาย ซื้อหุ้นจีน-ญี่ปุ่น-เวียดนาม รับเอเชียฟื้น