posttoday

นายกฯเศรษฐาโชว์ Soft Power ดึงนทท.ยุโรปเที่ยวไทย

08 มีนาคม 2567

นายกฯเศรษฐา โชว์วิชั่นงาน“The Amazing Thailand Networking Event”ต้ังเป้าปี67ดึงนักท่องเที่ยวยุโรป 8.5 ล้านคนเที่ยวไทยสร้างรายได้กว่า 1.7 หมื่นล้านยูโร พร้อมชูศักยภาพการบินเชื่อมโยงภูมิภาค

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ปาฐกถาในงาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2024 (ITB Berlin 2024) เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแถลงนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของไทยในระดับภูมิภาค ณ CityCube กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อวันที่ 7มี.ค.2567

นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการร่วมงานวันนี้เป็นโอกาสดี สร้างความเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนความเห็น พร้อมพิจารณาถึงศักยภาพในการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รัฐบาลตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 อยู่ที่กว่า 9 หมื่นล้านยูโร คิดเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 5.9 หมื่นล้านยูโร โดยคาดหวังนักท่องเที่ยวจากยุโรป 8.5 ล้านคน คิดเป็นรายได้อยู่ที่กว่า 1.7 หมื่นล้านยูโร
 

ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นความสำคัญของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งไม่เพียงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้เกิดการจ้างงานในประชากรส่วนใหญ่ โดยรัฐบาลวางแผนยกระดับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ผ่านมาตรการสำคัญ ดังนี้
 
การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (Ease of Travelling) โดยรัฐบาลได้ยกเว้นวีซ่าชั่วคราวสำหรับอินเดีย รัสเซีย คาซัคสถาน และไต้หวัน พร้อมทั้งได้ลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างไทยกับจีน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังหารือความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงในลักษณะดังกล่าวสำหรับวีซ่าประเทศในกลุ่มเชงเก็น รวมถึงการจัดทำความตกลง “One Visa, Free your Destination” ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อลดความยุ่งยากในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค
 
การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง (Secondary destinations) ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสอีกหลายสถานที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปพบปะประชาชนทั่วประเทศ และเห็นถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ และมีเสน่ห์เฉพาะตัว และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก รัฐบาลจึงได้วางแนวทางส่งเสริมคุณค่าและเอกลักษณ์ที่ดีงามเหล่านี้ พร้อมผลักดันให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว สร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่
 
การปรับปรุงกฎระเบียบสำหรับสถานบันเทิง เช่น การขยายเวลาเปิด-ปิด สถานบันเทิงในพื้นที่สำคัญ การผ่อนคลายกฎระเบียบการขายและการลดภาษีสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้มีความทันสมัย และเหมาะสมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
 
การใช้ประโยชน์จาก “Soft Power” ของไทย เป็นจุดขายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และมีความพิเศษ น่าจดใจ โดยการใช้ประโยชน์จากเทศกาลที่มีเอกลักษณ์และสวยงาม เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเทศกาลระดับโลก โดยนักท่องเที่ยวอาจรู้จักเทศกาล “สงกรานต์” ของไทย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก และยังมีเทศกาลอื่นอีกมากที่รอให้ทุกคนได้ค้นพบ
 
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม และได้ติดต่อผู้จัดงานเทศกาล คอนเสิร์ต และกิจกรรมระดับนานาชาติต่าง ๆ เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ
 
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และรัฐบาลมีวิสัยทัศน์ที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในทศวรรษนี้
 
การวางแผนสร้าง ปรับปรุง และขยาย สนามบิน โดยสร้างสนามบินนานาชาติล้านนา (Lanna International Airport) ซึ่งจะเป็นสนามบินแห่งที่สองของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คึกคักสำหรับจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดในภาคเหนือ ขณะที่สนามบินนานาชาติอันดามัน (Andaman International Airport) ในจังหวัดพังงา จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบินเชื่อมเส้นทางระยะไกลในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเมื่อแล้วเสร็จ สนามบินทั้งสองแห่งนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้สูงสุดถึง 40 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนการปรับปรุงและการขยายสนามบินเดิมทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และในพื้นที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักด้วย
 
การเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินให้เต็มศักยภาพการรองรับ ไทยกำลังทำงานร่วมกับสายการบินพันธมิตร ควบคู่ไปกับการยกระดับการบริการและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มความถี่เที่ยวบินและเส้นทางใหม่สู่ประเทศไทย ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจุดต้นทางมากขึ้นไปยังจุดหมายปลายทางทั่วประเทศและภูมิภาคที่กว้างขึ้น โดยในต้นเดือนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะจัดงาน  “Air-mazing Thailand: The Amazing Airlines Fam Trip” ซึ่งงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการบินที่กว้างไกลของประเทศไทย นอกเหนือจากศูนย์กลางที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ และศักยภาพอันยิ่งใหญ่ เพื่อเชื่อมโยงการบินในภูมิภาค
 
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ด้วยการลงทุนและความมุ่งมั่น รัฐบาลจะทำให้ไทยเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านการท่องเที่ยวภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไทยต้องการสนับสนุนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้เปิดรับประสบการณ์ แบ่งปันเรื่องราวของการเดินทางในประเทศไทย ที่จะสร้างความทรงจำที่ตราตรึงใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นทั่วโลกที่ต่างพร้อมแสวงหาการเดินทางอันไม่มีที่สิ้นสุดในประเทศไทย
 
อนึ่ง งาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand จัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2024 (ITB Berlin 2024) ซึ่งเป็นงานมหกรรมส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 7 มีนาคม 2567 โดยภายในงานมีกิจกรรมส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว การเจรจาธุรกิจ การอัพเดทสถานการณ์ทางการตลาด การเปลี่ยนแปลงทางสถานการณ์ท่องเที่ยว และพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีหน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วม