posttoday

ก.คลัง กางตัวเลขรัฐถือครองหลักทรัพย์สูงกว่า 3.63 แสนล้าน กองทุนรวมนำโด่ง

06 พฤษภาคม 2566

ก.คลัง โดย สคร. กางตัวเลขหลักทรัพย์ที่รัฐถือครอง ที่มียอดสูงกว่า 3.63 แสนล้านบาท รวม 99 หลักทรัพย์ โดยมูลค่าสูงสุดอยู่ในกองทุนรวมกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนยอดเงินนำส่งเข้าคลังหลวงเฉลี่ยที่ปีละ 3 พันล้านบาท

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยการถือครองหลักทรัพย์ของรัฐว่า ในช่วงปลายปี 2565 มีจำนวน 99 หลักทรัพย์ (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจ) เป็นมูลค่ารวมประมาณ 3.63 แสนล้านบาท และมีเงินนำส่งเข้าคลังหลวงเฉลี่ยประมาณปีละ 3 พันล้านบาท

ทั้งนี้ แบ่งเป็น หลักทรัพย์ที่ถือในเอกชนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 2.14 หมื่นล้านบาท หลักทรัพย์ที่ถือในเอกชนนอกตลาดหลักทรัพย์จำนวน 4.2 พันล้านบาท หลักทรัพย์ที่ถือในบริษัทที่มีสถานะพิเศษจำนวน 5.47 พันล้านบาท และ หลักทรัพย์ที่ถือในกองทุนรวมจำนวน 3.32 แสนล้านบาท

สำหรับการถือครองหลักทรัพย์ในกองทุนรวม แบ่งเป็น กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งจำนวน 3.29 แสนล้านบาท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยจำนวน 3.74 พันล้านบาท กองทุนรวมเพื่อร่วมลงทุนในวิสากิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวน 108 ล้านบาท กองทุนรวมเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นบานในภูมิภาคอาเซียนจำนวน 461 ล้านบาท และ กองทุนรวมอื่น ๆ 0.154 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มาซึ่งหลักทรัพย์จากการลงทุนตามนโยบายภาครัฐ ประกอบด้วย การลงทุนใหม่ โดยการซื้อหุ้นในกิจการหรือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมที่กระทรวงการคลังไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นเดิมและการลงทุนเพื่อการเพิ่มทุน โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม หรือตามนโยบายภาครัฐในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับกิจการที่ภาครัฐต้องการสนับสนุน

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้มาซึ่งหลักทรัพย์จากเหตุอื่น เช่น การรับโอนจากหน่วยงานอื่น การได้มาซึ่งหลักทรัพย์จากการยึดทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการลงทุนของกระทรวงการคลังเป็นการพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายกรณี ปัจจุบันมีแนวคิดในการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนในการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของรัฐ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นระบบและเป็นไปตามมาตรฐานสากล