posttoday

วรวรรณ มองปม Credit suisse ส่อเข้าวิกฤตการเงินโลก?

16 มีนาคม 2566

วรวรรณ ธาราภูมิ มองสถานการณ์ Credit suisse อาจลุกลามหนัก ตั้งคำถามอาจเป็นจุดเริ่มต้นสู่วิกฤติการเงินโลก ให้รอตามต่อหลังทางการเข้ากู้วิกฤต

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวงให้มุมมองถึงวิกฤติของ SVB (Silicon Valley Bank) ทางเฟซบุ๊ก วรวรรณ ธาราภูมิ โดยระบุว่า

 
วานนี้ (15 มีนาคม 2566) หุ้น CSGN ของธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ในตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์ ร่วงลง 30% แตะระดับต่ำสุดเท่าที่เคยมีมา (all-time low) ที่ราคา 1.56 ฟรังก์สวิสต่อหุ้น ณ เวลาสวิส 14.30 น. แล้วขึ้นไปปิดที่ 1.70 ฟรังก์สวิส หรือลดลง 24.24% ส่งผลให้หุ้นธนาคารต่างๆ ในตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลงไปโดยเฉลี่ย 7% ลามไปถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯ และของประเทศอื่นๆ

 

การเทขายหุ้นนี้เป็นผลมาจากการที่แบงค์ชาติซาอุฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารเครดิตสวิสบอกว่าจะไม่เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่เครดิตสวิสอีกแล้ว

 

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก … หลังจากที่โลกกำลังจับตามองการล้มของ 3 ธนาคารในสหรัฐฯ นำโดย SVB … พอเหตุการณ์จะคลี่คลายขึ้นมาบ้าง ก็เกิดเรื่องกับเครดิตสวิสในยุโรปขึ้นมาซะอีก

 

ที่จริงนั้นเครดิตสวิสมีปัญหามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ปีมะโว้ และคนในวงการก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบได้ จึงไม่น่าตกใจนัก

 

แต่นักลงทุนมองว่าด้วยความใหญ่ของเครดิตสวิส (ที่มีสินทรัพย์กว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ เลห์แมน บราเธอร์ส ตอนจะล้มในปี 2008 มีขนาดสินทรัพย์เพียง 6 แสนล้านดอลล่าร์) จะเป็นปัญหาระดับโลก และคาดว่าธนาคารอื่นๆ จะมีปัญหาตามมาอีก
 

 

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา Credit Suisse ได้เสียหายอย่างหนักถึง 2 ครั้งจากการเข้าลงทุนในบริษัท Greensil 3.8 แสนล้านบาท รวมถึงกไปปล่อยกู้ให้กับ Archegos Capital Management สูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท แล้วทั้งสองแห่งนี้ต่างก็ล้มละลายทั้งคู่ ทำให้ Credit Suisse ขาดทุนติดต่อกันแล้วหลายไตรมาส ทำให้แบงค์นี้อยู่ในสถานะง่อนแง่น คนจะปล่อยกู้ให้ก็กลัวไม่ได้เงินคืน คนจะเพิ่มทุนให้ก็ไม่อยากทำการกุศลอีกแล้ว

 

ด้วยความกลัว นักลงทุนจึงสวมใส่ “หลวงพ่อโกย วัดหน้าตั้ง” เผ่นหนีไฟไปตามระเบียบ เทขายหุ้น (ไม่จำกัดเฉพาะหุ้นธนาคารเครดิตสวิส) แล้วหันไปหลบภัยด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลแทน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปล่าสุดร่วงลงไป 2% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ในสหรัฐร่วง 1.3% และทำให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของเยอรมนีพุ่งสูงขึ้น (เพราะแย่งกันซื้อเพื่อหลบภัยก่อน) ส่งผลให้ผลตอบแทนลดลงกว่า 0.40%

 

แต่การที่เครดิตสวิสมีขนาดงบดุลใหญ่กว่า Silicon Valley Bank มากนัก และยังเชื่อมโยงไปทั่วโลก จึงทำให้วิตกกันว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของวิกฤตการณ์ระดับโลกอีกครั้ง ใช่หรือไม่”

 

ทั้งนี้ จะแก้ปัญหาได้เร็วหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องตัดสินวิธีแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว รอบคอบ และเด็ดขาด 

 

ล่าสุดในวินาทีนี้ แบงค์ชาติสวิสบอกว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือแล้ว แต่จะออกมาเป็นอย่างไรขอให้ติดตามกันเองไปเลย เดี๋ยวก็จะมีสำนักข่าวและนักวิเคราะห์ทั้งหลายช่วยกันมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

 

ส่วนข้าพเจ้าขอไปนอนซัก 1-2 ชั่วโมงก่อน (อดนอนยังไงไม่รู้ ตัวบวมทำน้ำหนักนิวไฮได้ทุกวัน) 
 

วรวรรณ ธาราภูมิ
16 มีนาคม 2566