posttoday

เฟดยอม อุ้มผู้ฝากเงิน SVB หยุดกระแสคนแห่ถอนเงิน ลุ้นทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ

13 มีนาคม 2566

"ดร.กอบศักดิ์" เผย เฟดยอมจำนน อุ้มผู้ฝากเงิน "ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์" เปิดทางให้ถอนเงินได้เต็มจำนวน เพื่อเรียกความเชื่อมั่น- หยุดวิกฤตลุกลาม หลังผู้ฝากแห่ถอนเงินออกจากแบงก์เล็ก และแบงก์ท้องถิ่น สร้างแรงกดดันสภาพคล่องแบงก์อื่นๆ จับตาทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐไปต่ออย่างไร

ทั่วโลกเกิดอาการหวั่นวิตกอีกระลอก หลังธนาคารซิลเวอร์เกท และธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley Bank : SVB) ต้องปิดตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเผชิญปัญหาสภาพคล่อง

ล่าสุด‘กอบศักดิ์ ภูตระกูล’ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยและกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เมื่อคืนนี้ ทางการสหรัฐ ประกาศ ยอมจำนน

 

1. อุ้มผู้ฝากเงินของ Silicon Valley Bank (เงินฝาก 175,4000 ล้านดอลลาร์) ทั้งที่ มีการค้ำประกันจากสถาบันประกันเงินฝาก FDIC หรือไม่มีค้ำประกัน หมายความว่า คนที่ฝากเกิน $250,000 ก็จะได้เงินคืน ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เป็นต้นไป ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ผู้ฝากเงินทั่วสหรัฐ เริ่มไปถอนเงินจากแบงก์เล็กๆ ตามชุมชน และแบงก์ท้องถิ่น ต่างๆ จากความกังวลใจว่าจะไม่ได้เงินคืน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อสภาพคล่องของแบงก์ต่างๆ 

 

ยิ่งไปกว่านั้น  Signature Bank ที่ New York (เงินฝาก 89,000 ล้านดอลลาร์) ถูกสั่งปิดเป็นรายที่ 2 กลายเป็นกรณีแบงก์ล้มที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ รองจาก Silicon Valley Bank ที่เป็นอันดับ 2 และ Washington Mutual ที่เป็นอันดับ 1 ที่ล้มไปช่วงวิกฤต Hamberger
 

2. ช่วยสภาพคล่องแบงก์ที่เหลือ โดยเฟดประกาศ Bank Term Funding Program ขนาด 25,0000 ล้านดอลลาร์ ให้ธนาคารสามารถเอา พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือ ตราสาร Mortgage backed securities มาแลกเป็นสภาพคล่องได้ที่ราคาหน้าพันธบัตร

 

ทั้งนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องจบลงแบบ Silicon Valley Bank ที่ต้องขายออกไปแลกสภาพคล่องที่ราคาขาดทุน ทั้งหมด คงเพราะเห็นแล้วว่า ปล่อยไปคงล้มอีกหลายธนาคาร และอาจจะลุกลามไปมากกว่านี้ ยอมทำผิดตำราที่ตนเองชอบสอนคนอื่นไว้ ให้ลงโทษผู้ฝากเงินด้วย เวลาแบงก์ล้ม รอบนี้ ตัดสินใจ "อุ้มผู้ฝากทุกคน" "ให้ถอนได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันจันทร์" เพื่อให้ผู้ฝากเงินสหรัฐ หยุดไปถอนเงิน เพราะ "ทางการจะเข้ามาช่วยแล้ว" โดยสหรัฐบอกว่า ถ้ายอมปล่อยให้สถานการณ์หมุนไปต่อ สุดท้ายก็อาจจะลุกลามไปกว่านี้ แล้วมาลุ้นต่อกันว่า ในเรื่องดอกเบี้ย เฟดจะเดินอย่างไรต่อ