Kubix ปิดโครงการ ICO แรกจบสวย DESTINY TOKEN เงินต้นผลตอบแทนครบ
Kubix เผย ICO ครัั้งแรกจบสวย DESTINY TOKEN จ่ายเงินต้นและผลตอบแทนครบถ้วน เล็งเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ มั่นใจตลาดโทเคนดิจิทัล โดยเฉพาะ Investment Token ในไทยเติบโตได้อีกไกล
นางสาวอภิญญา เรืองทวีคูณ Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix) เปิดเผยว่า DESTINY TOKEN ซึ่งเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนในรูปแบบโปรเจกต์ (Project-based Investment Token) โครงการแรกของไทย ในการระดมทุนเพื่อสร้างภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ออกเสนอขายจำนวน 16,087 โทเคน มูลค่ากว่า 265 ล้านบาท ที่ให้ผลตอบแทนทั้งในรูปแบบอัตราดอกเบี้ยและสิทธิพิเศษจากภาพยนตร์
ทั้งนี้ หลังจากที่ปิดการขายโทเคนไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2565 ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ มีการออกฉายและทำรายได้ทั่วประเทศตามรายงานจากเว็บไซต์ Thailand Box Office ทั้งสิ้นถึง 392.73 ล้านบาท
โดยบริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด ได้ใช้สิทธิ์ไถ่ถอนโทเคนดิจิทัลก่อนกำหนด และคืนเงินร่วมลงทุนพร้อมผลตอบแทนแก่ผู้ถือโทเคน 2.99% ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งมีการคำนวณผลตอบแทนต่อปีตามจำนวนวันของโครงการ 246 วัน ผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผู้ถือโทเคนได้แจ้งไว้ในขั้นตอนการจองซื้อกับทาง Kubix ถือเป็นการปิดโครงการที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
สำหรับ DESTINY TOKEN นับว่าเป็นโครงการนำร่องการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัลโครงการแรกของประเทศไทย โดย Kubix ทำหน้าที่ ICO Portal ให้กับทางบริษัท สเปเชียล เดสทินี ในการออกแบบผลิตภัณฑ์การลงทุนที่แปลกใหม่และเข้าใจง่าย เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ แก่นักลงทุน
ในต่างประเทศมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 ตลาด Tokenized Asset ทั่วโลกจะเติบโตและมีสัดส่วนสูงถึง 10% ของจีดีพีโลก หรือสูงถึง 16.1 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทและสถาบันด้านการลงทุนชั้นนำหลายแห่งต่างสนใจศึกษาและมีการลงทุนใน Tokenized Asset ในหลายอุตสาหกรรม
เช่นเดียวกับในแง่กฎหมายของหลายประเทศได้มีการจัดให้ Investment Token เป็นหนึ่งในประเภทสินทรัพย์การลงทุน เทียบเท่าผลิตภัณฑ์การลงทุนในตลาดการเงินเดิมอย่างหุ้น ตราสารหนี้ หรือกอง REIT ถือได้ว่าเป็นอนาคตของตลาดการลงทุนที่หลายคนจับตามอง
อย่างไรก็ตาม ตลาดโทเคนดิจิทัลในไทยยังใหม่และมีโอกาสเติบโตอีกมาก ในด้านกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังมีการปรับปรุงรายละเอียดทั้งในฝั่งของ Investment Token และ Utility Token ซึ่งมีการเปิด Hearing รับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ อยู่ในขณะนี้
โดยทิศทางที่น่าสนใจคือการผลักดันให้ Investment Token เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับแนวทางในการกำกับดูแลในหลายประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักลงทุนและผู้ออกโทเคน โดยเฉพาะการมีหลักเกณฑ์ทางภาษีที่สามารถเทียบเคียงกับหลักทรัพย์
สำหรับในปีนี้ Kubix ยังคงตั้งเป้าเดินหน้าโครงการ ICO ใหม่ ๆ มีการให้คำปรึกษากับบริษัทที่สนใจจากหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมจับมือกับพันธมิตรและสถาบันการเงินการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดโทเคนดิจิทัลในประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ Kubix เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ในปี 2564 และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้สามารถเริ่มประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565
ด้วยมีวัตถุประสงค์หลักให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านระบบบล็อกเชน (ICO Portal) ซึ่งผสานโทเคนเพื่อการลงทุน (Investment Token) และโทเคนสิทธิพิเศษ (Utility Token) เพื่อให้นักลงทุนได้รับทั้งผลตอบแทนในรูปแบบของตัวเงิน และสิทธิพิเศษแบบ Exclusive ที่มอบให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลเท่านั้น


