posttoday

นิทรรศการตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ

03 กรกฎาคม 2554

กรมศิลปากรจัดนิทรรศการภาพตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กรมศิลปากรจัดนิทรรศการภาพตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดย..สมาน สุคโต

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค. 2554 และได้นำประวัติตราสัญลักษณ์ เฉลิมพระเกียรติในวาระสำคัญต่างๆ ในอดีตมาจัดแสดงพร้อมๆ กัน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2554 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ภาพตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เป็นของผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศ รางวัลชมเชย และของผู้เข้าร่วมประกวดอื่นๆ รวม 112 แบบ จากผลงาน 63 คน

นิทรรศการตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ

แบบที่รับรางวัลชนะเลิศเป็นของนายศิริ หนูแดง รองชนะเลิศมี 2 รางวัลเป็นแบบของนายเจริญ มาบุตร และนายทวี ศรีใหม่ ชมเชยมี 10 รางวัล เป็นแบบของนายทวี ศรีใหม่ นายศุภชัย จันทร์จั่น นายสุเมธ พุฒพวง นายอัครพล คล่องบัญชี นายบำรุง อิศรกุล นายสมชาย นิลแก้ว นายชนะ อั้งลี่ นายอนันต์ชัย เฟื่องนคร สำหรับนายอนันต์ชัย ได้รับรางวัลชมเชยจากผลงานถึง 3 แบบด้วยกัน

ผู้ที่ส่งแบบเข้าประกวดที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนนอกจากผู้ได้รางวัลชนะเลิศแล้ว ก็มี ด.ญ.กัญจน์รัตน์ ฟังมงคล อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสิริวัฒน์วิทยา กรุงเทพมหานคร ที่ส่งผลงานเข้าประกวด 1 แบบ แม้จะไม่ได้รับรางวัล แต่ได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะเป็นเด็กเพียงคนเดียวที่สร้างสรรค์งานเข้าประกวดร่วมกับศิลปินมืออาชีพได้อย่างน่าทึ่ง

ตราสัญลักษณ์ 84 พรรษา

นายศิริ หนูแดง ศิลปินผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ กล่าวว่า แรงบันดาลใจที่เขาออกแบบจนได้รับรางวัลคือความศรัทธาและเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเหมือนคนไทยทุกคนที่มีความรักในพระองค์อยู่แล้ว จากความศรัทธาจึงได้สร้างสรรค์ตราสัญลักษณ์ขึ้นมา ในตรานี้ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ซึ่งมีความหมาย ที่สื่อถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น

เช่น ภาพ ภปร สีเหลืองทอง สัญลักษณ์ประจำพระองค์อยู่ตรงกลาง ตรงกรอบ ภปร ทำพิเศษเพื่อสื่อถึงความเรียบง่าย อันเป็นพระราชจริยวัตรของพระองค์ ซึ่งตัวนายศิริประทับใจกับหลอดยาสีฟันที่พระองค์ทรงใช้คุ้มค่า ประหยัด ทรงเป็นแบบอย่างแก่คนไทยทั้งปวง

ลายพุ่มข้าวบิณฑ์สีทอง ซึ่งมีสัปตปฎลเศวตฉัตรประดิษฐานอยู่เบื้องบน ด้านนอกสุดเป็นกรอบโค้งมีลวดลายสีทองบนพื้นสีเขียว หมายถึงสีอันเป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ อีกทั้งยังหมายถึงความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์และความสงบร่มเย็น

ด้านล่างอักษรพระปรมาภิไธยเป็นรูปกระต่ายสีขาว กระต่ายนั้นทรงเครื่องอยู่ในลักษณะกำลังก้าวย่าง อันหมายถึงปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ตรงกับปีเถาะ

เบื้องล่างตราสัญลักษณ์เป็นแพรแถบสีชมพูขลิบทอง เขียนอักษรสีทอง ความว่า พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค. 2554

เขาบอกว่าเมื่อทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยแบบตราสัญลักษณ์ด้วยพระองค์เอง เป็นความภาคภูมิใจที่ไม่สามารถจะมีคำใดๆ มากล่าวได้แล้ว เพราะน้อยครั้ง น้อยคนที่จะมีโอกาสถวายการรับใช้พระองค์ท่าน จึงเป็นความภาคภูมิใจของตนและครอบครัว และมหาวิทยาลัยที่ตนสังกัด

ระยะเวลาในการทำตราสัญลักษณ์ครั้งนี้ นายศิริ ซึ่งเป็นอาจารย์วิทยาเขตเพาะช่างบอกใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ทั้งหมดไม่มีอะไรเท่ากับความภูมิใจที่ได้ใช้ความรู้ผลิตงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ยิ่งเป็นงานที่ผ่านพระบรมวินิจฉัยด้วยแล้ว ไม่มีใครปฏิเสธว่าสายพระเนตรพระองค์เฉียบคมและยาวไกลยิ่งนัก

งานออกแบบตราสัญลักษณ์ ที่นายศิริทำออกมาก็เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ คือสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏสามารถสื่อความหมายได้ เมื่อกรรมการคัดเลือกมาได้ 13 แบบ ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัย และได้แก้ตามที่พระองค์ท่านมีพระบรมราชวินิจฉัยเป็นระยะๆ จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์

การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยคัดเลือกงานของตน จึงเป็นพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นทั้งความภาคภูมิใจของตนเองและครอบครัว จึงถือว่าเป็นความสุดยอดอย่างหนึ่งในชีวิต

ตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ

ในหลายปีที่ผ่านมาประชาชนชาวไทยได้เห็นตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่มีการเฉลิมฉลองวาระสำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหลายโอกาส ซึ่งอาจจัดรวมได้เป็น 2 วาระ คือ

1.วาระการเฉลิมฉลองการทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบสำคัญ คือ ครบ 25 ปี 50 ปี 60 ปี รวมทั้งเมื่อทรงครองสิริราชสมบัติเสมอหรือมากกว่าพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในอดีต

นิทรรศการตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ

2.วาระการเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบพิเศษ คือ 5 รอบ 6 รอบ และดังในพุทธศักราช 2554 อันเป็นวาระเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ หรือ 84 พรรษา

ในประวัติศาสตร์ไทยมีการใช้ตราหรือดวงตราเป็นเครื่องหมายที่รับรู้ทั่วประเทศมีในรูปแบบต่างๆ อาทิ ตราลัญจกร ตราแผ่นดิน ตราประจำจังหวัด ตราประจำหน่วยราชการ ตราตำแหน่งเสนาบดี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นต้น

นับแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา มีการออกแบบตราเนื่องในโอกาสพิเศษและสำหรับพระราชพิธีสำคัญตามแต่จะมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อใช้ประโยชน์ตามวาระสมัย อาทิ ตราที่ใช้ในการประดับตกแต่งสถานที่ ตาลปัตร พัดรอง และย่ามถวายพระสงฆ์ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ เป็นต้น

ในรัชกาลปัจจุบันรัฐบาลไทยตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเล็งเห็นถึงความต้องการของประชาชนที่ปรารถนาจะมีส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลจึงมีดำริ และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มีการใช้ตราสัญลักษณ์ในโอกาสมหามงคลที่มีการเฉลิมฉลองในวาระสำคัญและประกาศใช้อย่างกว้างขวาง

กรมศิลปากรเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการออกแบบจัดสร้าง หรือจัดประกวดตราสัญลักษณ์ในแต่ละครั้ง จากนั้นคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ นำแบบร่างตราสัญลักษณ์ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อมีพระบรมราชวินิจฉัย และนำกลับมาแก้ไขแล้ว จึงประกาศใช้เป็นทางการในระยะเวลาที่กำหนด

ตราสัญลักษณ์ที่ประกาศใช้จะปรากฏในเหรียญเฉลิมพระเกียรติ และเชิญไปประดับตามหน่วยงานราชการ อาคารร้านค้า เริ่มขึ้นในพุทธศักราช 2514 เป็นต้นมา

พระราชพิธีรัชดาภิเษก 2514

วันที่ 9 มิ.ย. 2514 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรรจบครบ 25 พรรษา บริบูรณ์ รัฐบาลในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี และประชาชนชาวไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม เห็นชอบในอันที่จะร่วมกันแสดงความจงรักภักดี จัดงานพระราชพิธีรัชดาภิเษกขึ้นเป็นราชสักการะ

ในการนี้รัฐบาลได้จัดทำแบบตราสัญลักษณ์เป็นรูปพระมหามงกุฎ ประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า มีรัศมีแผ่โดยรอบ ตั้งอยู่บนวิมานเมฆ ระหว่างพระมหามงกุฎและพานมีตราโอมหรือเลข 9 อันหมายถึง รัชกาลที่ 9 ข้างพานมีราชสีห์และคชสีห์ ค้ำจุนเศวตฉัตรขนาบซ้ายขวา ด้านล่างมีอักษร “รัชดาภิเษก 9 มิถุนายน 2514 ที่ระลึกพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี”

ตราสัญลักษณ์นี้มีปรากฏใช้เพียง 2 แห่ง คือ ภายใต้พัดรอง จำนวน 200 เล่ม เพื่อถวายแด่พระสงฆ์ตั้งแต่ชั้นเจ้าคณะจังหวัดขึ้นไปตามโบราณราชประเพณี และหนังสือที่ระลึกซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นในวโรกาสนี้ มิได้มีใช้ทั่วไป

จึงขอเชิญชวนท่านไปศึกษาหาความรู้ที่หอศิลป อยู่ติดกับสนามหลวง ใกล้ปากซอยรามบุตรี เปิดชมฟรี ถึงสิ้นปี

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68