posttoday

เลียนแบบ'ไอดอล'

26 มีนาคม 2554

เวลาพูดถึงคำว่า “เลียนแบบ” หรือ “ลอกเลียน” เรามักจะนึกไปในความหมายที่ไม่ดีนะครับ โดยเฉพาะถ้ามองจากมุมของการทำธุรกิจ เพราะมักจะชวนให้เรานึกถึงการขโมยความคิด การผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ อะไรทำนองนี้

เวลาพูดถึงคำว่า “เลียนแบบ” หรือ “ลอกเลียน” เรามักจะนึกไปในความหมายที่ไม่ดีนะครับ โดยเฉพาะถ้ามองจากมุมของการทำธุรกิจ เพราะมักจะชวนให้เรานึกถึงการขโมยความคิด การผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ อะไรทำนองนี้

โดย...อานนท์

เวลาพูดถึงคำว่า “เลียนแบบ” หรือ “ลอกเลียน” เรามักจะนึกไปในความหมายที่ไม่ดีนะครับ โดยเฉพาะถ้ามองจากมุมของการทำธุรกิจ เพราะมักจะชวนให้เรานึกถึงการขโมยความคิด การผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ อะไรทำนองนี้

แต่ผมคิดว่า การเลียนแบบที่เป็นเรื่องดีก็มีอยู่มาก ง่ายๆ ครับ เราสามารถเลียนแบบการทำดีของคนดี และแม้ในเชิงธุรกิจเราก็ยังสามารถเลียนแบบการบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ

ดังนั้น ไม่ใช่แต่เฉพาะในวงการบันเทิงที่มี “ต้นแบบ” หรือ “ไอดอล” แต่ในวงการธุรกิจ หลายๆ ท่านก็มีไอดอลของตัวเอง เช่น ในระดับโลกเราอาจจะอยากเลียนแบบสักเสี้ยวหนึ่งของบิล เกตส์ หรือวอร์เรน บัฟเฟตต์ ส่วนในระดับประเทศ เราก็จะอยากเหมือนส่วนหนึ่งของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ หรือคุณเฉลียว อยู่วิทยา เป็นต้น

การที่เราอยากเป็นเหมือนไอดอลของเรา เราสามารถเลือกมองส่วนที่ดีของเขา และละเลยส่วนไม่ดีไปเสีย เช่น ในกรณีของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่โด่งดังที่สุดของโลกตอนนี้ น่าจะเป็น มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ที่ได้ขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐีวัยละอ่อน ที่เพียงอายุ 20 กว่าๆ ก็กลายเป็นเจ้าของธุรกิจในระดับแถวหน้าของโลก ด้วยแนวคิดแหวกแนวที่รังสรรค์ให้เกิดเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ข้อดีของซักเคอร์เบิร์กมีอยู่มากมายที่ทำให้หนุ่มคนนี้ก้าวมาถึงฝั่งฝัน ไม่ว่าจะเป็นความคิดสร้างสรรค์ ความกล้า การตัดสินใจ ฯลฯ

แต่ในด้านมืดของซักเคอร์เบิร์กก็มีอยู่เยอะ ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ปีที่เฟซบุ๊กถือกำเนิดขึ้น เพื่อนฝูงของเขาหายไปหมด หลายคนที่ก่อร่างสร้างตัวสร้างเฟซบุ๊กมาด้วยกันก็กลายมาเป็นคู่กรณีที่ต้องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือหากจะมองเขาจากมุมทางด้านการศึกษา ก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ

แต่เราจะนำเอาด้านลบเหล่านี้มาเป็นเครื่องบั่นทอนให้เรามองไม่เห็นความเป็นไอดอลของซักเคอร์เบิร์ก หรือถ้าเราคิดแค่นั้น จะเป็นการคิดที่คับแคบไปหรือเปล่า??

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราอาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราอาจจะต้องถามถึงขั้นที่ว่า คนที่ดีพร้อมทุกอย่าง มีอยู่จริงไหม

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่ามีครับ แต่เราอาจจะยังหาไม่พบ หรือไม่คนดีที่เราเจออาจจะไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ เขาจึงอาจจะสามารถเป็นไอดอลในด้านการใช้ชีวิต แต่ไม่อาจจะเป็นไอดอลในการทำการค้าได้

กลับมาสู่ประเด็นของการเลียนแบบ

ผมอยากให้ท่านผู้อ่านลองมองไปตามแผงหนังสือ ท่านอาจจะได้พบว่า มีหนังสือที่เกี่ยวกับอัตชีวประวัติ หรือไม่ก็เบื้องหลังเคล็ดลับความสำเร็จของคนมากมายวางอยู่บนแผง

นั่นแหละครับ เครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งในการมองหาไอดอล แต่แน่นอนว่า ยุคสมัยใหม่นี้ เราไม่จำเป็นจะต้องปิดกั้นตัวเองกับสื่อแบบเดิมๆ ดังนั้น มีถนนเส้นทางอื่นที่เราจะทำความรู้จักไอดอลของเรา เช่น การค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการตีตั๋วเข้าไปฟังการบรรยายของเขา

แนวคิด เคล็ดลับ ฯลฯ ที่คนซึ่งประสบความสำเร็จแล้วได้ถ่ายทอดออกมา เป็นเรื่องที่เราสามารถหยิบฉวยมาเลียนแบบได้ในแนวทางของเราเอง จึงไม่แปลกเลยที่หนังสือประเภทนี้จะขายดี อย่างน้อยผมก็ได้เห็นหนังสือเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการทำให้ตัวเองร่ำรวยของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ขายดิบขายดี พิมพ์แล้วพิมพ์อีกมาหลายรอบ และให้ไอเดียที่ดีๆ หลายอย่าง เช่น วิธีการเลือกซื้อหุ้นที่จะตัดสินใจทำกำไรจากมัน หรือวิธีการบริหารกิจการ วิธีการควบรวมกิจการ เลยไปถึงวิธีการปรับโครงสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง

ผมยกตัวอย่างเพียงคนเดียว ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่ไอดอลของผม แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เป็นไอดอลของคนจำนวนหลายล้านคนทั่วโลกที่แสวงหาหนทางร่ำรวย และทำกำไรจากแนวทางที่เขากรุยทางมาก่อน และนำเสนอทางลัดให้แก่ผู้มาทีหลัง

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อแนวคิดที่ว่า การได้เรียนรู้ความสำเร็จจากผู้ที่เราเห็นอยู่แล้วว่าเขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จอย่างล้นเหลือ จะเป็นทางลัดที่ทำให้เราได้เรียนรู้ และเดินตาม หรือหลีกเลี่ยงในสิ่งที่พวกเขาได้เตือนเราไว้แล้ว

ผมเคยอ่านประวัติชีวิตของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ และได้ทราบว่า ไม่ใช่ทุกอย่างที่ท่านทำจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ทุกอย่างที่ท่านคิดจะเป็นเรื่องที่ถูก แต่เราก็สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ท่านเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำธุรกิจ และแน่นอนว่า เป็นการประสบความสำเร็จที่ผ่านบางช่วงบางตอนที่เรียกได้ว่าล้มเหลว แต่การก้าวเดินต่อ และแก้ไขปัญหาอย่างไรต่างหากที่สำคัญกว่าความเสียใจที่ว่า เราจะล้มเหลวอีกสักกี่ครั้ง

ผมจึงอยากแนะนำว่า ให้เจ้าของธุรกิจทุกท่าน พนักงานบริษัททุกคน ไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ ได้ใช้บางโอกาสของตนเองเพื่อมองหาไอดอลที่ดีในชีวิต และการทำงาน คนที่เราสามารถเรียนรู้วิธีการเดินไปสู่ความสำเร็จ คนที่เราสามารถมองเห็นร่องรอยแห่งความล้มเหลวที่เราจะไม่พลาดท่าซ้ำกับที่เขาเคยเจอมาก่อน และเราสามารถเลือกเลียนแบบคนได้หลายคน อาจเลือกใช้กลยุทธ์บางกลยุทธ์ของบางคนในบางโอกาสที่เหมาะกับการค้าของเรา และไม่หยิบบางส่วนของบางคนมาคิด

การเลียนแบบจึงไม่ใช่เรื่องแย่ๆ เสมอไป แต่อาจจะเป็นทางลัดที่ดีที่สุดที่เราไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเรียนให้เสียเวลาครับ

 

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. 68