ฟอร์ดเปิดตัวเรนเจอร์ใหม่
ฟอร์ดเปิดตัวกระบะเรนเจอร์ใหม่พร้อมกัน 3 รูปแบบตัวถัง-เครื่องยนต์เผยโฉมเต็มรูปแบบในงานมอเตอร์โชว์25มี.ค.-5เม.ย.
ฟอร์ดเปิดตัวกระบะเรนเจอร์ใหม่พร้อมกัน 3 รูปแบบตัวถัง-เครื่องยนต์เผยโฉมเต็มรูปแบบในงานมอเตอร์โชว์25มี.ค.-5เม.ย.
โจ ฮินริคส์ ประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดเผยว่า ฟอร์ดเตรียมตัวเปิดตัวรถปิกอัพเรนเจอร์โฉมใหม่ครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียนในประเทศไทย ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมจัดแสดงตัวถังทุกรูปแบบในตระกูลเรนเจอร์ ใหม่ ภายใต้แนวคิด “ความแข็งแกร่งแห่งศตวรรษที่ 21”
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เผยโฉมครั้งแรกพร้อมตัวถัง 3 รูปแบบ ทั้งแบบธรรมดา โอเพ่นแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ โดยตัวถังแต่ละรูปแบบที่นำเสนอต่างเป็นรถที่มีพื้นที่ใช้งานกว้างขวางมากที่สุดรุ่นหนึ่งเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน มีตัวเลือกสำหรับการขับเคลื่อนทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ รวมทั้งมีระดับความสูงให้เลือก 2 ระดับ โดยรุ่นขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ ไฮ-ไรเดอร์ ใช้โครงสร้างตัวถังเดียวกันกับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ และยังมีรุ่นต่างๆ ให้เลือกถึง 5 รุ่น
มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ทั้ง 3 รุ่นของเรนเจอร์ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) เครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ที่ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ (200 แรงม้า) และเครื่องยนต์เบนซิน ฟอร์ด ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้แรงบิดมากถึง 226 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) สามารถใช้กับพลังงานทางเลือกแบบแอลพีจีได้
เรนเจอร์เป็นหนึ่งในรถกระบะขนาดคอมแพ็คที่ทันสมัยที่สุด ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีอันชาญฉลาด อาทิ ระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียงพร้อมการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ1 และระบบกล้องมองภาพด้านหลัง มอบความมั่นใจในการขับขี่บนทุกสภาพถนน ด้วยความสามารถในการลุยน้ำสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ที่ 800 มิลลิเมตร และเทคโนโลยีอื่นๆ อาทิ Hill Descent Control และ Hill Launch Assist และมีความสามารถในการลากจูงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน โดยบางรุ่นสามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3,350 กิโลกรัม
ตัวรถผลิตขึ้นจากโครงสร้างตัวรถกระบะระดับโลกของฟอร์ดที่มีความแข็งแกร่งสูง เพียงแพลตฟอร์มเดียวแทนการใช้โครงสร้างตัวถัง 2 แพลตฟอร์มเช่นในปัจจุบัน โดยจะผลิตขึ้นที่โรงงานในประเทศไทย แอฟริกาใต้ และอาร์เจนติน่า เพื่อจำหน่ายในประเทศต่างๆ กว่า 180 ประเทศทั่วโลก โดยได้รับการออกแบบและพัฒนาในประเทศออสเตรเลียในฐานะรถกระบะคันแรกที่พัฒนาขึ้นจากการทำงานภายใต้กลยุทธ์ One Ford ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการผลิตสินค้าระดับโลกที่นำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญจากวิศวกรของฟอร์ดทั่วโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวถังความยาว 5,359 มม. และกว้าง 1,850 มม. ตัวรถจึงดูบึกบึนมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังคงเป็นรถที่ผู้ใช้งานสามารถขับขี่ไปบนถนนแคบๆ และบังคับทิศทางเพื่อเข้าจอดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นผลจากการตอบสนองที่ดีเยี่ยมของระบบพวงมาลัยที่มีระยะหมุนไม่เกิน 3.5 รอบ นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน
เพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยพื้นที่เก็บของที่ลึกมากขึ้น สำหรับรุ่นตัวถังแบบธรรมดาและแบบโอเพ่นแค็บ มีขนาดพื้นที่บรรทุกของด้านหลังใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันที่ 1.85 ลูกบาศก์เมตร และ 1.45 ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ ขณะที่รุ่นดับเบิ้ลแค็บมีขนาดความจุอยู่ในระดับต้นๆ ของตลาดที่ 1.21 ลูกบาศก์เมตร
เรนเจอร์ ใหม่ มอบความคุ้มค่าให้กับทุกพื้นที่ใช้สอยด้วยช่องเก็บของต่างๆ มากถึง 23 จุดในรุ่นดับเบิ้ลแค็บ ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณช่องเก็บของที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งหมด กล่องเก็บของกลางคอนโซลที่มีความลึกอย่างมาก ทำให้เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถกระบะที่มีพื้นที่ในกล่องมากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ด้วยความจุ 8.5 ลิตรและสามารถบรรจุกระป๋องเครื่องดื่มได้มากถึง 6 กระป๋อง ทั้งยังสามารถเก็บความเย็นได้ในรุ่นที่มีการต่อท่อแอร์เข้าไปยังกล่องดังกล่าว
กล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร มีขนาดใหญ่พอสำหรับการบรรจุเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาด 16 นิ้ว ขณะที่ช่องเก็บของด้านข้างประตูสามารถใส่ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรได้ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับวางโทรศัพท์เคลื่อนที่และของกระจุกกระจิกอื่นๆ บริเวณตรงกลางคอนโซล รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ซึ่งอยู่ในระยะที่ผู้ขับสามารถเอื้อมถึงได้ ขณะที่ใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังมีช่องเก็บของซ่อนอยู่ เหมาะสำหรับการเก็บเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถจะหยิบใช้ได้ง่าย
เรนเจอร์ ใหม่ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ทันสมัย เทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบาย ปลอดภัย และขับสนุกยิ่งขึ้น ขณะที่บางรุ่นสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านบลูทูธ ยูเอสบี และไอพอด รวมทั้งระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียง เพื่อสั่งงานวิทยุ ซีดี ไอพอด ยูเอสบี ระบบแอร์อัตโนมัติ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบควบคุมการปรับอากาศทั้งร้อนและเย็น รวมทั้งระบบครูซ คอนโทรล ที่มีให้เลือกในรุ่นสูงๆ รวมทั้งยังมีตัวเลือกหน้าจอสีแสดงผลขนาด 5 นิ้วพร้อมระบบเนวิเกเตอร์ผ่านดาวเทียมในบางรุ่น
ระบบกันสะเทือนด้านหลังของเรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการปรับจูนให้เหมาะกับการขับขี่ในสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ และรองรับการบรรทุกน้ำหนักมากๆ ทั้งยังช่วยให้การทรงตัวดีเยี่ยมเมื่อขับด้วยความเร็วสูงบนพื้นดิน ช่วยลดการส่ายของรถ และช่วยให้รถไม่ลื่นไถลเมื่อขับบนพื้นผิวที่ขรุขระ นอกจากนี้ การปรับตั้งระบบกันสะเทือนที่เป็นเอกลักษณ์ ยังรวมถึงการพัฒนาสปริงและโช้คให้มอบความสบายยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการขับขี่บนถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ เช่นในประเทศไทย
เรนเจอร์ยังเป็นรถที่ขับขี่บนทางลาดชันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการติดตั้งระบบ Hill Launch Assist ทำให้แม้แต่รถที่บรรทุกน้ำหนักมาก ซึ่งอาจมีน้ำหนักรวมถึง 3,200 กิโลกรัม ก็ยังสามารถหยุดและออกตัวอีกครั้งได้บนถนนที่มีความลาดชันถึง 60% ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่รถกระบะทั่วๆ ไปจะสามารถทำได้
มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยปกป้องความปลอดภัยหลังเกิดการชนด้วย อาทิ ถุงลมนิรภัยตามจุดต่างๆ ของรถที่จะมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศที่วางจำหน่าย ม่านถุงลมนิรภัยได้รับการติดตั้งในตัวถังทุกรูปแบบเป็นครั้งแรก โดยถุงลมนิรภัยเหล่านี้จะถูกบรรจุไว้บริเวณขอบหลังคา ขณะเกิดการชนด้านข้าง ถุงลมนิรภัยเหล่านี้จะพองตัวขึ้นเพื่อรองรับการกระแทกบริเวณศีรษะของผู้โดยสารที่นั่งอยู่ติดกับประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยครอบคลุมทั้งโครงสร้างตัวถังและส่วนที่เป็นกระจก จากบริเวณเสาหน้าไปจนถึงเสาหลังของรถ
พบกับฟอร์ด เรนเจอร์โฉมใหม่ได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2554 ที่บูธฟอร์ด ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี


