ทริสเพิ่มเครดิตบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี
ทริสเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิง ” เป็น “AA/Stable” จาก “AA-/Stable”
ทริสเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิง ” เป็น “AA/Stable” จาก “AA-/Stable”
บริษัท ทริสเรทติ้ง ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ผลิตไฟฟ้ าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เป็น “AA” จากเดิมที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะการเงินของบริษัทที่แข็งแกร่งขึน้ และการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้ าที่หลากหลายยิ่งขึ้น อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงสถานะผู้นำจากการเป็นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ตลอดจนรายได้เงินปันผลที่มากพอและสมํ่าเสมอจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความแข็งแกร่งของงบดุลและแผนขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าและโครงการที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้ าทัง้ ในประเทศไทยและต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากการลงทุนในต่างประเทศ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะมีรายได้เงินปันผลที่แน่นอนจากการลงทุนในโรงไฟฟ้ าและโครงการที่มีสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทจะยังคงดำรงนโยบายการลงทุนแบบระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนตามแผนการเติบโตของบริษัทด้วย
ในวันเดียวกัน ทริสเรทติ้ง ยังประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ผลิตไฟฟ้ าราชบุรี จำกัด (RATCHGEN) ที่ระดับ “AA” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ด้วย โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอนจากการมีสัญญาขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement -- PPA) ระยะยาวกับ กฟผ. ตลอดจนการมีโรงไฟฟ้ าที่มีโครงสร้างพืน้ ฐานแข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งประสบการณ์ที่ยาวนานและผลงานในการบริหารโรงไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงระดับการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ลดลงของโรงไฟฟ้ าพลังความร้อนของบริษัทจากการเกิดขึน้ ของโรงไฟฟ้ าใหม่ ๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวถือว่ามีผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทเพียงเล็กน้อย ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหมายของทริสเรทติง้ ว่า RATCHGEN จะยังคงได้รับกระแสเงินสดที่แน่นอนจากรายได้ค่าไฟฟ้ าจากโรงไฟฟ้ าราชบุรี นอกจากนี ้ยังคาดว่าโรงไฟฟ้ าย่อยต่าง ๆ จะยังคงดำรงความพร้อมจ่ายและผลการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้ าหมายของสัญญาซือ้ ขายไฟฟ้าได้ต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า RATCH เป็นบริษัทโฮลดิง้ ที่ลงทุนในธุรกิจไฟฟ้ าซึ่งก่อตัง้ ในปี 2543 เพื่อซือ้ โรงไฟฟ้ าราชบุรีจาก กฟผ. โดยในปีเดียวกันบริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ เดือนธันวาคม 2553 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ RATCH ยังคงเป็น กฟผ. ซึ่งถือเป็นในสัดส่วน 45% นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้ถือหุ้นในโรงไฟฟ้ าที่เปิดดำเนินการแล้วรวมกำลังการผลิต 4,347 เมกะวัตต์ คิดเป็น 14% ของกำลังการผลิตติดตั้ง ของประเทศ ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ เดือนธันวาคม 2553 บริษัทมีการลงทุนในโรงไฟฟ้ าทั้ง หมด 11 โครงการ มีกำลังการผลิตรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท 5,531 เมกะวัตต์ โดย 4 โครงการ (4,347 เมกะวัตต์) ได้ดำเนินการผลิตไฟฟ้ าแล้ว ในขณะที่อีก 7 โครงการ (1,184 เมกะวัตต์) อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา โดยทุกโครงการมีสัญญา PPA ระยะยาวกับ กฟผ.
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีผ่านมา RATCH มีกำไรก่อนดอกเบีย้ จ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายเฉลี่ย10,000 ล้านบาทต่อปีและได้รับเงินปันผลเฉลี่ย 6,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2553 บริษัทมีรายได้เงินปันผลจำนวน 3,755ล้านบาทจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าหลายแห่ง โดยเงินปันผลจาก RATCHGEN คิดเป็นสัดส่วน 77% ของรายได้เงินปันผลรวมของบริษัท บริษัท พึ่งพิงรายได้เงินปันผลจาก RATCHGEN น้อยลงจากในอดีตซึ่งสูงถึงกว่า 90% หลังจากที่ บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด (RPCL) เริ่มจ่ายเงินปันผลให้แก่บริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553RATCH ดำเนินนโยบายการบริหารธุรกิจแบบระมัดระวัง โรงไฟฟ้ า 7 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนารวม 1,184 เมกะวัตต์ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้ าพลังน้ำ จำนวน 401 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้ าถ่านหินลิกไนต์จำนวน 751 เมกะวัตต์ในประเทศลาว ส่วนที่ เหลืออีก 32 เมกะวัตต์เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศไทย โครงการโรงไฟฟ้ าทัง้ หมดที่บริษัทลงทุนมีสัญญา PPA ระยะยาว
กับ กฟผ. ภายใต้แผนการลงทุนนีบ้ ริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 26.2% เป็น 5,486 เมกะวัตต์ในปี 2559 จาก 4,347 เมกะวัตต์ในปัจจุบันบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแรงด้วยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ 30.2% ณ เดือนกันยายน 2553บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนระหว่างปี 2554-2557 รวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ด้วยรายได้เงินปันผลในระดับ4,000-5,000 ล้านบาทต่อปีและเงินสดในมือซึ่งรวมเงินลงทุนระยะสัน้ ทัง้ หมดอีก 10,465 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2553 ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุนตามแผนโดยใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจต้องใช้แหล่งเงินทุนจากภายนอกเพิ่มเติมสำหรับการซือ้ กิจการขนาดใหญ่หรือการลงทุนอื่นที่นอกเหนือจากโครงการในปัจจุบัน สำหรับ RATCHGEN นัน้ ทริสเรทติง้ กล่าวว่าเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย RATCH ซึ่ง RATCH เป็นบริษัทที่ถือหุ้น 45% โดยกฟผ. RATCHGEN เป็นบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ าเอกชน (Independent Power Producer -- IPP) รายใหญ่ที่สุดในประเทศ โรงไฟฟ้ าราชบุรีของบริษัทประกอบด้วยหน่วยผลิตไฟฟ้าพลังความร้อน 2 หน่วยและหน่วยผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (CCGT) 3 หน่วย คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 3,645 เมกะวัตต์ หรือเท่ากับ 12% ของกำลังการผลิตติดตั้ง รวมของประเทศ ณ เดือนธันวาคม 2553 ปัจจุบันบริษัทขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ภายใต้สัญญา PPA ระยะเวลา 25 ปี และซือ้ ก๊าซธรรมชาติจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ภายใต้สัญญาขายก๊าซธรรมชาติ(Gas Sales Agreement - GSA) ระยะเวลา 25 ปีในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในโรงไฟฟ้าราชบุรียังคงดำเนินงานดีกว่าเป้าหมาย โดยสามารถดำรงค่า
ความพร้อมจ่ายเฉลี่ยที่ระดับ 88.8% และอัตราความร้อนในการผลิตไฟฟ้าที่ระดับ 7,206 บีทียูต่อหน่วย (BTU/kWh) ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนสามารถดำรงค่าความพร้อมจ่ายให้อยู่ในระดับสูงที่ 94.8% ด้วยอัตราความร้อนที่ 10,089 บีทียูต่อหน่วย ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 ส่งผลให้ปริมาณการผลิตพลังงานไฟฟ้ าสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 เพิ่มขึน้ 41.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอยู่ที่ระดับ 12,646 ล้านหน่วย (GWh) อย่างไรก็ตาม ระดับการจ่ายไฟฟ้ าของหน่วยผลิตไฟฟ้ าพลังความร้อนยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 39.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 ซึ่งเป็นผลมาจากการมีโรงไฟฟ้ าแห่งใหม่เข้ามาในระบบในระหว่างปี 2552-2553 ทั้งนี้ระดับการจ่ายไฟฟ้าที่ลดลงมิได้ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทเนื่องจากกำไรสุทธิส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายพลังไฟฟ้า(Availability Payment – AP)
ทริสเรทติ้ง กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 RATCHGEN มีรายได้จากการขายไฟฟ้ าเพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 32,338 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิลดลง 33.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือ 2,953 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการที่รายได้ค่า AP ลดลงตามที่กำหนดไว้ใน PPA และต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึน้ หลังครบกำหนดการยกเว้นภาษีของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ย จ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่แข็งแรงจำนวน 6,457 ล้านบาท อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบีย้ จ่ายเพิ่มขึน้ เป็น 12.7 เท่าจาก 11.1 เท่าในปี 2553ส่วนหนึ่งเป็ นผลจากความสำเร็จในการเจรจาลดอัตราดอกเบี้ย ในปี 2552 ในขณะที่อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ที่ไม่รวมส่วนเปลี่ยนแปลงของบัญชีเงินสำรองเพื่อการชำระหนี้แ ละเงินทุนหมุนเวียนอยู่ในระดับดีที่ 2.1 เท่า ณ เดือนกันยายน 2553


