ผ่าอนาคต THCOM ลุย Space Tech เสริมแกร่งธุรกิจหลัก “ดาวเทียม”
เจาะยุทธศาสตร์ THCOM เดินหน้ายิงดาวเทียมไทยคม 9 และ 10 หนุนรายได้โต 3 เท่าตัว ในปี 71 เสริมแกร่งด้วย “Space Tech” ดันสัดส่วนรายได้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพิ่มเป็น 30%
KEY
POINTS
- ไทยคม (THCOM) วางแผนยิงดาวเทียมดวงใหม่ ไทยคม 9 และ ไทยคม 10 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก โดยตั้งเป้าผลักดันรายได้ให้เติบโต 3 เท่าภายในปี 2571
- ขยายธุรกิจสู่เทคโนโลยีอวกาศ (Space Tech) โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม (GEOINT), ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) และเทคโนโลยีด้านความมั่นคง (Defense)
- ตั้งเป้าปรับโครงสร้างรายได้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า โดยเพิ่มสัดส่วนจากธุรกิจ Space Tech เป็น 30% เพื่อสร้างการเติบโตควบคู่กับธุรกิจดาวเทียมซึ่งเป็นธุรกิจหลัก
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2569 ด้วยแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้มุ่งเน้นการเป็นผู้ให้บริการดาวเทียม พร้อมเดินหน้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีอวกาศ (Space Tech) ภายใต้โอกาสใหม่ในตลาดโลก
“ปฐมภพ สุวรรณศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยทิศทางธุรกิจและแผนยุทธศาสตร์ในปี 2569 และอนาคตว่า หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจดาวเทียมอยู่ที่โครงการดาวเทียมดวงใหม่ ได้แก่ ดาวเทียมไทยคม 9 และไทยคม 10
จากปัจจุบันไทยคมให้บริการดาวเทียม 4 ดวง ได้แก่ ไทยคม 7 และไทยคม 8 ซึ่งเป็นดวงที่บริษัทครอบครองและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยตรง ภายใต้ระบบใบอนุญาตของ กสทช. ส่วนอีก 2 ดวง คือ ไทยคม 4 และ ไทยคม 6 โดยไทยคมได้ส่งมอบดาวเทียม 2 ดวงนี้ ให้แก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไปแล้ว และไทยคมได้ทำการเช่าซื้อสัญญาณกลับคืนมา เพื่อนำมาให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ยิงดาวเทียมไทยคม 9 ในไตรมาส 2/69
สำหรับดาวเทียมไทยคม 9 เป็นดาวเทียมขนาดเล็ก ความจุ 10 Gbps คาดว่าจะยิงขึ้นสู่วงโคจรและพร้อมให้บริการในช่วงไตรมาส 2/2569 รองรับตลาดอินเดียและไทย ตั้งเป้าหมายลูกค้ามาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมเต็มภายในระยะเวลา 1 ปี หลังจากยิงขึ้นสู่วงโคจร
โดยเฉพาะอินเดีย ถือเป็นตลาดดาวเทียมที่ดีที่สุดในโลก โดยมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน และภูมิประเทศที่เข้าถึงยาก ทำให้ดาวเทียมเป็นเทคโนโลยีเดียวที่ตอบโจทย์ความต้องการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลได้
ทั้งนี้ ไทยคมทำธุรกิจในอินเดียมานานกว่า 20 ปี ผ่านบริษัทลูก “IPSTAR India” และมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง ทำให้เข้าตลาด โดยมีลูกค้าหลัก คือ BSNL ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมของอินเดีย นอกจากนี้ ยังได้จับมือกับ Hughes Communications India ผู้ให้บริการดาวเทียมรายใหญ่ในอินเดีย เพื่อขยายตลาดสู่ภาคเอกชน ในการให้บริการ WiFi บนเครื่องบิน
มั่นใจคว้างาน USO 3 มูลค่า 5,500 ล้านบาท บางส่วน
ขณะเดียวกัน ไทยคมมั่นใจว่าจะได้รับงานบางส่วนจากโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและเพื่อสังคม (USO เฟส 3) ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี หลังจากไทยคมได้ยื่นซองประมูลไปเมื่อ 15 ธ.ค.2568 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารของผู้ที่เข้าประมูลทุกราย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ และน่าจะทราบผลการประมูลในช่วงต้นปี 2569
“มั่นใจว่าเราจะได้รับงานบางส่วนของโครงการ USO 3 เนื่องจากมีประสบการณ์โดยตรงจากการทำโครงการ USO 1 และ USO 2 มาก่อน ดังนั้นโครงการ USO 3 และไทยคม 9 จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขาย รายได้ และกำไรของไทยคมในปี 2569”
ไทยคม 10 เรือธงดาวเทียม ดันรายได้ปี 71 โต 3 เท่าตัว
จากนั้นในปี 2570 มีกำหนดยิงดาวเทียมไทยคม 10 ขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งเป็นดาวเทียมขนาดใหญ่ 100 Gbps ปัจจุบันอยู่ได้รับความไว้วางใจจาก Eutelsat ในการจองช่องสัญญาณล่วงหน้า 50% และเมื่อรวมกับ USO 3 จะช่วยเพิ่มยอดจองใช้งานล่วงหน้าอีกประมาณ 10% ทำให้ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 60% ก่อนยิงขึ้นสู่วงโคจร
ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40% จะหาลูกค้าในตลาดอินเดีย, ไทย, ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ เพิ่มเติม ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดจองใช้งานให้ได้ 75% ก่อนยิงขึ้นสู่วงโคจร และเพิ่มเป็น 90% ภายใน 2-3 ปี ภายหลังเปิดให้บริการ
“เมื่อดาวเทียมไทยคม 10 เริ่มให้บริการเต็มปีในปี 2571 คาดว่ารายได้รวมของไทยคมจะเติบโตขึ้น 3 เท่าตัว จากปัจจุบันที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท และคาดหวังสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50%”
อนาคตทีวีดาวเทียม ชูโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมาย
ส่วนดาวเทียมไทยคม 6 และไทยคม 8 ซึ่งรองรับบริการบรอดคาสต์ ทั้ง 2 ดวง อายุการใช้งานถึงปี 2575 แม้มีความท้าทายจากการที่ตลาดไม่เติบโต แต่ยังมีผู้รับชมผ่านดาวเทียมกว่า 10 ล้านคน ดังนั้นไทยคมเตรียมเปิดตัวเทคโนโลยี Addressable Advertising จากอเมริกาในปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถเลือกยิงโฆษณาที่ต่างกันไปยังแต่ละครัวเรือนได้แม้จะดูช่องเดียวกัน
รุกธุรกิจ Space Tech ดันสัดส่วนรายได้ในอีก 4-5 ปี เพิ่มเป็น 30%
นอกเหนือจากธุรกิจดาวเทียม ไทยคมกำลังรุกเข้าสู่ธุรกิจ Space Tech มากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
1.Geospatial Intelligence (GEOINT) หรือการนำภาพถ่ายดาวเทียมมาวิเคราะห์ด้วย AI ธุรกิจนี้ลงทุนต่ำกว่าการยิงดาวเทียม แต่ขยายตัวได้เร็ว ในปัจจุบันมีการใช้งานจริงในภาคการเกษตร เช่น การประเมินพื้นที่ปลูกข้าว และการติดตามการเผาป่าในไร่อ้อยเพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 ซึ่งได้รับการยอมรับจากภาครัฐและเตรียมขยายผลสู่ระดับประเทศ
2.ดาวเทียมวงโคจรต่ำ Low Earth Orbit (LEO) ร่วมกับ Global Star เตรียมเปิดให้บริการ Satellite-to-Phone สำหรับ iPhone (SOS/SMS ผ่านดาวเทียม) ในไทยปีหน้า และกำลังเจรจากับพันธมิตรรายใหม่เพื่อให้บริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงบนเรือและเครื่องบิน
3.ดาวเทียมด้านความมั่นคง (Defense) ไทยคมเห็นโอกาสในการนำความเชี่ยวชาญด้านคลื่นวิทยุและเรดาร์มาพัฒนาเทคโนโลยี Anti-Drone และระบบสื่อสารชายแดนที่พึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องนำเข้ายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ 100%
“ไทยคมตั้งเป้าหมายในอีก 4-5 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจ Space Tech (LEO, GEOINT, Defense) ประมาณ 30% และอีก 70% ยังคงมาจากธุรกิจดาวเทียม จากปัจจุบันธุรกิจ Space Tech อยู่ที่ไม่ถึง 10% และธุรกิจดาวเทียม อยู่ที่กว่า 90%”


